เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 เวลา 13.00 น. ที่หมู่บ้านพฤกษา 3 ซอย 68 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บ้านเลขที่ /1620 จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พ.ค.67 ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ข้อความพร้อมรูปยายและหลานอีก 4 คน โดยระบุข้อ ความขอความช่วยเหลือ “เปิดเทอมเด็กไม่มีอุปกรณ์ไปเรียน ตอนนี้ไม่มีที่อยู่เลยมาอาศัยหน้าบ้านเรา อยากได้ข้าวสารอาหารแห้งให้แก ถ้าใครพอจะมีแบ่งปันหรือที่วัดไหนพอจะมีให้แกไปขอ…กราบขอบคุณคะ” หลังจากนั้นก็ได้ลบโพสดังกล่าวออกไป
ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบ น.ส.ฉวี ภู่กรร อายุ 70 ปี หรือยายฉวี ,ด.ช.ทวิวรัตน์ รอดพันธ์ธนโชติ หรือน้องเก้า อายุ 13 ปี , ด.ช.อัครเดช ชูศรี หรือน้องอาร์ม อายุ 14 ปี ,ด.ญ.สุทามาษ ทองแววศรี หรือน้องเอิร์น อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ทิวาพร รอดพันธ์ธนโชติ หรือน้องใหม่ อายุ 8 ขวบ โดยทั้ง 4 คน เป็นหลานแท้ๆของยายฉวีทั้งหมด

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดนนทบุรี และนักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือครอบครัวยายฉวีและหลานอีก4คนแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลและกรอกเอกสารเพื่อมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นพร้อมกับประสานทางโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อให้เด็กๆให้เข้าเรียนต่อแล้ว ส่วนเรื่องการดูแลเด็กๆยายฉวีจะขอดูแลเองต่อไป ไม่พร้อมให้เด็กไปสถานสงเคราะห์เพราะไม่อยากแยกจากหลานๆ ส่วนที่อยู่ยายฉวีก็จะขออาศัยอยู่ที่นี้ไปก่อนเพราะเจ้าของบ้านคอยดูแลตนและหลานๆเหมือนญาติ
ยายฉวี กล่าวว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่เจ้ามาช่วยเหลือก็รู้สึกดีใจมากๆ ส่วนตัวแล้วตนไม่ได้ต้องการเงิน แค่อยากให้หลานๆได้เข้าเรียนเหมือนคนอื่นๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนก็ไม่ต้องการอะไรแล้วที่นอนตรงนี้ก็นอนได้ แต่หากใครอยากช่วยบริจาคตนก็อยากจะขอเป็นผ้าห่มหรือหมอนก็พอ ส่วนเรื่องข้าวสารอาหารแห้งหรือมาม่าตนก็ยินดี แต่ไม่ขอรับเป็นเงินโดยเด็ดขาด ไม่ใช่ว่ายายมีเงินหรือหยิ่งอะไร เพียงแต่กลัวว่าพอมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องจะมีปัญหาตามมาภายหลัง ตอนนี้เจ้าหน้าที่มาทำเรื่องเอกสารให้แล้วตนก็จะมีทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้เดือนละ 300 บาท และบัตรผู้สูงอายุก็จะได้เดือนละ 700 บาท ก็จะเก็บตรงนี้ไว้ให้หลานเดินทางไปโรงเรียน ส่วนเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐก็จะนำไปซื้อพวกชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน
ด้าน น.ส.ลลิตา นิยมรัตน์ เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ พัฒนาสังคมจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นจากการสอบถามน้องยังขาดในเรื่องของชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งทางเจ้าของบ้านเช่าหลังเดิมเขาได้ทิ้งของไปหมดแล้ว ทางด้านยายของน้องเองก็ได้ติดต่อไปยังโรงเรียนของน้องซึ่งทางโรงเรียนยินดีรับน้องกลับไปเรียนเพียงแต่ขาดชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งทางหน่วยงาน พม.จ.นนทบุรีได้ช่วยเหลือเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อให้น้องนำไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนก่อนในเบื้องต้น ซึ่งตัวยายเองไม่ประสงค์จะส่งน้องๆไปสถานสงเคราะห์ เนื่องจากอยากจะดูแลหลานๆเอง ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่จะขอพิจารณาดูก่อนว่าในระยะยาวจะสามารถช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง และที่ผ่านมาทาง พม.เองก็ได้ช่วยเหลือยายมาตลอดตั้งแต่ปี 2566 ได้ช่วยเหลือในส่วนของเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งเป็นเงิน 3,000 บาท และได้ทำเรื่องเสนอคณะกรรมการคุ้มครองเด็กของจังหวัดนนทบุรีพิจารณาช่วยเหลือเป็นเงิน 15,000 บาท โดยแบ่งจ่าย 3 งวด ซึ่งได้จ่ายให้ยายจนครบแล้ว ในส่วนของปี 67 นี้ ก็จะดูในส่วนของเงินสงเคราะห์ให้ต่อ ในส่วนของการเรียนทางเจ้าหน้าที่ประสานทางโรงเรียนให้น้องได้กลับไปเรียนต่อได้ทั้ง 2 คนในทันทีที่พร้อม ส่วนอีก2คนที่เหลือเหมือนตัวน้องไม่ได้รับการศึกษามานานแล้ว.
Discussion about this post