
วันที่ 4 มิ.ย.67 เวลา 06.00 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.นิชา ปัทมคัมภ์ อายุ 31 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 04.00 น. ที่เกิดเหตุบริเวณร้านอาหารสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าถูกรุมทำร้ายร่างกายจากเพื่อนร่วมโต๊ะจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเข้าใจผิดเรื่องค่าแชร์ใช้จ่าย
นางสาว นิชา ปัทมคัมภ์ อายุ 31 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เพื่อนตนได้ชวนไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ประมานเวลาเกือบเที่ยงคืน ตนจึงเดินทางไป พอไปถึงโต๊ะตนก็ไม่รู้จักใครซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนตนอีกที ส่วนบิลค่าอาหาร ค่าเหล้า ตนจ่ายทุกบิล ตนมีสลิปตังโอน แต่จะมีปัญหาที่บิลสุด ท้ายก่อนร้านใกล้ปิดช่วงประมานตี 3 ตนได้ไปเทเหล้ามากินปรากฏว่าเหล้าหมด ตนจึงเรียกพนัก งานมาเพื่อจะสั่งเหล้าเพิ่ม พนักงานก็บอกตนว่าร้านจะปิดแล้วจะสั่งอีกหรอ ตนบอกว่าไม่เป็นไรเหลืออะไรก็เอามาหรือเอาเบียร์มาก็ได้ พนักงานก็เปิดเบียร์มาให้ตน ซึ่งตอนนั้นร้านปิดพอดี พอตนกินไปได้สักพักได้มีน้องผู้หญิงที่อยู่โต๊ะเดียว กันกับตน ซึ่งเป็นแฟนของเพื่อนตนอีกที ตนก็บอกว่าโอเคเดี๋ยวกลับบ้านเพราะร้านปิดแล้ว เพราะเบียร์ก็เหลือถ้าไม่เอากลับบ้านก็เอาไปกินต่อข้างนอก น้องผู้หญิงก็ได้ถือเบียร์ออกไป ซึ่งเขาก็เป็นแฟนของคนในโต๊ะนั้น ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว นอก จากเพื่อนของตนที่ได้ชวนตนมา พอได้ออกมาหน้าร้านเขาก็มีปัญหาเรื่องแชร์ค่าเหล้ากัน ตอนนั้นตนก็ไม่รู้อะไร เพราะตนจ่ายทุกบิลพวกผู้ชายที่นั่งโต๊ะก็ทะเลาะกันหน้าร้านเรื่องแชร์ค่าเหล้า ตนจึงกลับบ้าน ขับรถออกไปได้สักพักตนก็มองหาเบียร์ขวดสุดท้ายไปไหน และพอดีกับน้องโต๊ะข้างๆก็ได้แอดเฟซฯ ตนไว้ ตนจึงทักไปถามเพราะว่าเขารู้จักกับคนในโต๊ะที่ตนไปนั่งกินด้วย
ตนก็ถามว่าน้องเบียร์ตนที่เปิดไปบิลสุดท้ายยังอยู่ไหม น้องเขาก็ตอบว่ายังอยู่ ตนจึงขับรถกลับไปพอไปถึง เขาก็บอกว่าจะมาทวงอะไร แต่ตนไม่ได้ซีเรียสที่เปิดไปโปรหนึ่ง แต่ตนขอแค่เหลือไว้ให้ตนสักขวดบ้าง ประเด็นอยู่ที่เขาบอกมาทวงเอาอะไร เขาคงอารมณ์ค้างจากที่ทะเลาะกันเมื่อกี้ ซึ่งเบียร์ขวดเดียวตนซื้อได้ แต่โปรนี้ตนเป็นคนเปิดเองจ่ายเอง ไม่ได้แชร์กับใคร ซึ่งกินทุกโปรตนช่วยได้หมดทุกบิล พอไปๆมาๆน้องผู้หญิงก็ไปบอกว่าตนจะไปขับรถชน ซึ่งตนจะไปขับรถชนน้องเขาทำไม เพราะก็ไม่ได้รู้จัก ซึ่งน้องเขาอ้างว่า ตอนที่ตนขับรถออกไปจะไปชนผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วแฟนเขาก็มาบอกว่ามึงจะขับรถไปชนเมียกู ซึ่งตนก็ไม่ได้ขับชนตนก็ขับปกติ ถ้าชนจริงๆก็ต้องเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ แต่ที่ตนขับรถกลับไปคือจะไปเอาเบียร์ แต่กลับตอบมาว่ากินหมดแล้ว ตนจึงบอกว่าเบียร์นี้คนละสวนนะตนจ่ายเองมีหลักฐานการโอน ตนไม่ได้ทวงตนแค่กลับมาเอาเบียร์ที่ตนจ่ายเอง และตนไม่ต้องการที่จะมีเรื่อง ตนแค่มาถามในส่วนของตนที่ตนเป็นคนจ่าย หลังจากนั้นพวกเขาก็รุมทำ ร้ายตนที่หน้าร้าน
ประมานตี 4 ตนจึงโทรหาเพื่อนมาพาตนไปแจ้งความ ซึ่งคนที่พวกเขาทะเลาะด้วยกลับไปแล้วในตอนนั้น ที่ตนมาแจ้งความเพราะอยากดำเนินคดีทุกคน เพราะเขาท้าทาย บอกเปิดกล้องเลย จะถ่ายก็ถ่ายเพราะตนไม่ได้ผิดอะไรตนมีหลักฐานการโอนทุกอย่าง ส่วนทางการ์ดของร้านก็แค่ยืนดูไม่มาห้าม ซึ้งผู้ชายก็ยืนล้อมตนวงนอก ผู้หญิงก็อยู่วงใน ก็อิรุงตุงนักอยู่ตรงนั้น เพื่อรุมทำร้ายตน ตนจึงต้องยอมเจ็บเพื่อที่จะได้เดินออกมาจากวงนั้น พอออกมาผู้ชายก็ตามจะเข้ามาทำร้ายตนอีกและยังบอกอีกว่าไปเปิดกล้องได้เลย และยังมีท้าตัวต่อตัวกับตนหลายครั้ง ตนก็ไปเอาเพราะตนก็ตัวคนเดียว ตนจึงรู้สึกว่าถ้าตนผิดหรือตนเมา ตนคงไม่มาแจ้งความร้องทุกข์ เพราะตนไปถามตนก็ถามดีๆ ไม่ได้อยากมีเรื่อง เพราะถ้านะตอนนั้นตนไม่ยอมโดนพวกผู้ชายคงเข้ามารุมทำร้ายตนอีก ถ้าตนไม่ยอมเจ็บตนคงไม่มาถึงที่ สภ. ปากเกร็ดเพื่อมาแจ้งความ
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งความและรับคำร้องทุกข์ไว้ พร้อมส่งตัวผู้เสียหายเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งก่อนที่จะนำใบตรวจร่างกายที่ถูกรุมร้ายมาส่งให้ร้อยเวร.
Discussion about this post