
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 กรณีชาวบ้านในหมู่บ้านป่าส้าน หมู่ 10 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย และหมู่บ้านข้างเคียงประสบกับความเดือดร้อนจากกลิ่นของมูลสุกร หรือ ขี้หมูจากฟาร์มเอกชนรายหนึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านป่าส้าน จนต้องรวมตัวกันไปยื่นหนังสือต่อฝ่ายปกครอง อ.พาน จ.เชียงราย ให้แก้ไขปัญหาเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่าหนึ่งในผู้ที่เดือดร้อนคือนายดนุพล หนูเทศ อายุ 57 ปี อดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยและสโมสรธนาคารกรุงเทพ ซึ่งได้ไปปักหลักสร้างบ้านอยู่กับภรรยาคือนางอารีรัตน์ หนูเทศ อายุ 47 ปี ที่หมู่บ้านป่าส้าน และยังเปิดกิจการคือ “ภูพานรีสอร์ท & สปอร์ตคลับ” ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ที่พัก สถานที่ออกกำลังกาย ฯลฯ ท่ามกลางภูมิประเทศที่ติดทุ่งนาและขุนเขา
โดยทั้งคู่บอกว่าครอบครัวกำลังประสบกับปัญหาขี้หมูเหม็นอย่างหนัก ทำให้ตลอดระยะเวลาเกือบ 7 เดือนที่ผ่านมา จึงได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูล จัดทำเอกสาร ติดต่อหน่วยงานต่างๆ เช่น ปศุสัตว์ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมืองพาน ฯลฯ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาแต่จนถึงปัจจุบันกลิ่นเหม็นยังโชยมารายวันโดยไม่มีการแก้ไขปัญหาเลย
โดยนายดนุพล กล่าวว่า เมื่อหลายปีก่อนตนได้ตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากอยู่กับภรรยาที่ ต.เมืองพาน โดยได้นำทุนที่สะสมตั้งแต่เมื่อครั้นยังติดทีมชาติมาลงทุนสร้างบ้านพัก ร้านอาหารและที่พัก ทำให้ไม่มีบ้านที่กรุงเทพฯ อีกแล้ว ส่วนสถานที่ใหม่ที่ ต.เมืองพาน พบว่าอยู่ติดกับทุ่งนาและขุนเขาเมืองพาน ซึ่งมีภูมิประเทศและอากาศที่ดีอย่างมาก แต่ปรากฎว่าได้เกิดปัญหากลิ่นจากฟาร์มหมู ทำให้ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการที่พักของตนพากันหายไปหมด ส่วนคนที่พึ่งเข้าพักก็พากันออกหรือเช็คเอ้าท์ ทำให้ตนรู้สึกว่ารับไม่ได้เพราะเดิมคาดหวังว่าจะปักหลักอยู่ที่เชียงรายตลอดไป
“แขกไปใครมาต่างต้องใช้ผ้าเช็คหน้าปิดปาก ทั้งๆ ที่สถานที่แห่งนี้ติดภูเขาน่าจะมีอากาศดีด้วยโอโซน แต่กลับเหม็นกลิ่นขี้หมูซึ่งจะโชยมาทุกวันจนชาวบ้านเดือดร้อนกันหมด แม้แต่ผมซึ่งลงทุนย้ายไปกะจะมาตายที่นี่ต้องเดือดร้อนหนักจนไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไรดีแล้ว แก้ไขกันอย่างไรก็ไม่สำเร็จ มันหลายปีแล้วครับที่ร้องเรียนกันนี่ก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นมาเลยซักอย่าง” ” อดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยกล่าว.
ทางด้านนางอารีรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือให้มีการแก้ไขปัญหาแต่ก็เหนื่อยใจกับเจ้าหน้าที่ ที่ให้ส่งหนังสือร้องเรียนไปทีละขั้นตอน จากนั้นก็ใช้เวลาเนิ่นช้าอย่างมาก กระทั่งมาทราบภายหลังว่าได้มีการอนุญาตให้ประกอบการฟาร์มหมูอยู่ ทั้งๆ ที่การอนุญาตครั้งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบในฟาร์มและมีการแจ้งให้แก้ไขปัญหาและทำบิ๊กโดมให้แล้วเสร็จ โดยเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมแจ้งว่าจะไม่อนุมัติให้นำสุกรเข้าไปในฟาร์ม แต่ท้ายที่สุดก็ทราบว่าได้มีการอนุญาตแล้วโดยไม่แจ้งผลให้พวกเรารับทราบเลย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านจากหมู่บ้านป่าส้าน และจากหมู่ 4,5,20,และ 21 ต.เมืองพาน ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียน ณ ที่ว่าการ อ.พาน ว่า มีกลิ่นเหม็นจากฟาร์มหมูดังกล่าวเป็นเวลานานมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้ารับเรื่องไว้และแจ้งจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาในวันที่ 18 มิ.ย.นี้.ต่อไป.
Discussion about this post