เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2567 ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง อ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวน เข้าจับกุมนายจตุพล หรือ ใบ้ ป่าหวาย อายุ 25 ปี ชาวบ้านป่าหวาย ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน หรือรับของโจร มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย” พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด ตู้ควบคุมแผงไฟโซล่าเซลล์ 1 ตู้ ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้าที่ถูกปลอกเอาทองแดงไปขาย จำนวน 2 ถุง คีมตัดสายไฟ 1 อัน และตัวอย่างปัสสาวะมีผลเป็นบวก 1 ชุด โดยจับกุมตัวพร้อมของกลางในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.11 ต.โนนสูง ควบคุมตัวตรวจยึดของกลาง ช่วงกลางวัน วันที่ 19 มิถุนา ยน 2567 นำไปสอบสวน

ในการสอบสวน เนื่องจากนายจตุพล จันทร์แพงดี เป็นใบ้ และหูหนวก จึงได้สมญานามว่า “ใบ้ ป่าหวาย” ในการสอบสวน จนท.ตำรวจใช้ความสามารถทุกวิถีทางในการส่งภาษา จนเมื่อยมือไปตามกัน ต่อมา จนท.ตร.ทราบจากญาติของนายใบ้ว่า ก่อนนี้เขาเคยเรียนหนังสือที่โรงเรียนโสตศึกษามาก่อน และสามารถอ่านหนังสือได้ แต่เขียนไม่ได้ จนท.ตร.จึงหันมาใช้เทคโนโลยีจากแอพพลิเคชั่นมือถือ พูดลงในโทรศัพท์เป็นตัวหนังสือในการสอบสวนปากคำรับสารภาพ เพื่อให้ผู้ต้องหาอ่าน จนสามารถบันทึกคำรับสารภาพส่งพนักงานสอบสวนได้สำเร็จ
การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.พ.ต.ท.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สว.สอบสวน.สภ.ย่อยโนนสูง รับแจ้งจากนายสงวน บุญรัตน์ อายุ 67 ปี ชาวบ้านหนองหิน ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรฯ ว่าถูกนายใบ้ เข้าไปก่อเหตุลักตัดสายไฟฟ้า และตู้ควบคุมแผงโซล่าเซลล์ในบ้านสวนของตน ที่อยู่ท้ายหมู่บ้านหนองหินไปจนเกลี้ยง และพบร่องรอยการปลอกสายไฟฟ้าทิ้งอยู่ในบ้าน เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นเดินสะพายเป้ออกมาจากบ้านสวนของตน หลังรับแจ้งตำรวจชุดสืบสวน จึงออกติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง
ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายใบ้ ด้วยมือ คำพูด และแอพพลิเคชั่น จนทำให้ตำรวจชุดสืบสวนเมื่อยทั้งปากและมือไปตามๆกัน แต่ก็สามารถบันทึกปากคำรับสารภาพของนายใบ้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีได้เป็นผลสำเร็จ ยอมรับว่างานนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เพราะตั้งแต่รับราชการมา 30 ปี ก็ไม่เคยจับคนร้ายที่เป็นใบ้ แถมหูหนวกอีกต่างหาก วันที่เข้าจับกุมพากันปวดหัวว่า จะดำเนินการอย่างไรดี กระทั่งญาติคนร้ายมาบอกว่า เขาอ่านหนังสือออก แต่เขียนไม่ได้ เพราะเคยเรียนหนังสือที่โรงเรียนโสตศึกษาอุดรธานี ตำรวจจึงใช้เทคโนโลยีจากแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ ในการสอบสวนปากคำรับสารภาพ
“จากการสอบสวนเขาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ช่วงนี้ตกงาน ไม่มีเงินซื้อข้าวและยาบ้าเสพ จึงเข้าไปลักตัดสายไฟ และตู้ควบ คุมแผงไฟโซล่าเซลล์ในบ้านสวนของผู้เสียหาย ปลอกเอาทองแดงสายไฟไปขายร้านรับซื้อขงเก่า ได้เงินมา 100 บาท นำไปซื้อยาบ้าจากเพื่อนที่บ้านโคกนาคลอง ได้มา 5 เม็ด นำมาเสพไปแล้ว 4 เม็ด เหลือ 1 เม็ดอยู่ในกระเป๋าสะพาย และติดเสพยาบ้ามา 1 ปีแล้ว ส่วนผู้ขายยาบ้าให้นายใบ้ ทางตำรวจจะได้ขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”.
Discussion about this post