
นายกานต์รวีย์ แดงเพ็ง นางสาวปณาลี รติพัชรพงศ์ และนางสาวมิ่งขวัญ หล่อตระกูล นักเรียนชั้นมัธยมปลาย จากโรงเรียนดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เลขที่ 126 ถนนประชาอุทิศ บางมด ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ร่วมกันเปิดเผยว่า คนตาบอดหรือผู้พิการทางสายตา อยากกินหมูกระทะ หรืออื่นๆด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต นั่นคือความฝันของคนพิการเหล่านี้ ที่อยากทำเรื่องง่ายๆ อย่างเช่นการกินหมูกระทะ กลับเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้ นี่คือโจทย์ที่ร่วมกันประดิษฐ์ “เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อสัตว์สำหรับคนพิการทางสายตา” เพื่อให้คนตาบอดได้ทำตามฝันที่ตั้งไว้
นายกานต์รวีย์ เล่าว่างานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ วมว. ที่โรงเรียนทำร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยโจทย์ที่สนใจเป็นเรื่องของคนพิการ โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการทางสายตา ที่การพูดคุยและเก็บข้อมูลจากคนพิการทางสายตาเป็นกลุ่มตัวอย่างทั้ง 24 คน ที่เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเนื้อที่ปิ้งหรือย่างอยู่นั้นสุกหรือไม่ด้วยตัวเอง ทำให้หลายครั้งต้องกินของไม่สุกหรือไหม้เกินไป หรือจำเป็นต้องมีคนคอยช่วยเหลือตลอดเวลา จึงต้องการประดิษฐ์อุปกรณ์เพื่อวัดอุณหภูมิอาหารเพื่อคนพิการทางสายตาขึ้นมา
เมื่อโจทย์และข้อมูลที่ต้องการชัดเจนการทำงานจริงก็เริ่มขึ้น ทีมงานจึงนำแนวคิดไปปรึกษากับอาจารย์จุฑารัตน์ สุ่นประเสริฐ ครูที่ปรึกษาในโรงเรียน และ ผศ.ดร.ธิติมา วงษ์ชีรี ที่ปรึกษาจากศูนย์วิจัยและบริการเพื่อชุมชนและสังคม สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มจธ. นำไปสู่ไอเดีย การติดเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหารแบบเข็มไว้กับที่คีบอาหาร โดยจะมีการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมให้สามารถแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิของเนื้อชิ้นนั้นสูงถึงระดับที่ตั้งไว้ “บริเวณปลายที่คีบจะมีแท่งโลหะที่เป็นตัววัดอุณหูมิ การใช้งานเพียงกดปลายที่คีบลงบนเนื้อชิ้น และส่งข้อมูลอุณหภูมิที่วัดได้มาเข้าโปรแกรมที่สร้างขึ้น ซึ่งหากเนื้อชิ้นนั้นมีอุณหภูมิ 85-90 องศาเซลเซียส ก็จะมีส่งสัญญาณให้ผู้ใช้งานได้รู้หากเนื้อชิ้นนั้นสุก ที่มีให้เลือกเตือนแบบเสียงและเตือนแบบสั่น เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานทั้งภายในบ้านและนอกสถานที่”
นางสาวมิ่งขวัญ กล่าว ว่า
สำหรับการนำไปทดลองใช้จริงนั้น พบว่าได้รับความพึงพอใจในระดับมาก รวมถึงได้รับข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาอุปกรณ์ในอนาคตว่า ควรปรับด้ามจับให้เป็นสีเข้มเพื่อให้คนสายตาเลือนรางสามารถสังเกตได้ ปรับขนาดให้เล็กลงและน้ำหนักให้เบาชึ้น และสามารถบอกอุณหภูมิเป็นเสียงพูดได้ ซึ่งต้นทุนในการทำอุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่เกิน 600 บาท”
นอกจาก “เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อสัตว์สำหรับคนพิการทางสายตา” จะได้รางวัลเหรียญเงินจากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ โรงเรียน วมว.ทั่วประเทศ รวมถึงรางวัลบทความวิชาการดีเด่น ด้านการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อและส่งเสริมอาชีพให้คนพิการ จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว อีกสิ่งที่สำคัญประสบการทำงานของน้องแต่ละคน และมุมมองต่อผู้พิการที่เปลี่ยนไป
“สิ่งสำคัญที่สุดคืองานนี้ช่วยปรับทัศนคติของพวกเราต่อคนพิการทางสายตาให้เปลี่ยนไป เราพบว่าพวกเขามีปัญหาในการใช้ชีวิตมากกว่าแค่การเดินทางเหมือนที่หลายคนคิด เรื่องอาหารก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน โดยสิ่งที่เขาอยากได้มากที่สุดคือ เครื่องมือที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถช่วยตัวเองได้มากที่สุด” นางสาวมิ่งขวัญ พูดถึงสิ่งสำคัญที่ตนเองและเพื่อนๆ ได้ได้จากการทำงานครั้งนี้
ผศ.ดร.ธิติมา ในฐานะที่อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ว่าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้อาจจะยังไม่ได้รับการผลิตจริงออกสู่ท้องตลาดในตอนนี้ แต่ข้อค้นพบและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่จะช่วยสนับสนุนการใช้ชีวิตของคนตาบอดในประเทศไทยในอนาคต
“ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ช่วยเหลือคนพิการในประเทศไทยมีอยู่น้อยมาก จำเป็นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง คนพิการทางสายตาหลายคนอาจเข้าไม่ถึง แต่การเริ่มต้นคิดค้นอุปกรณ์สนับสนุนการใช้ชีวิตของคนพิการด้วยคนไทยเอง ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มี ผลิตขึ้นในประเทศ จะเป็นการช่วยเพิ่มตัวช่วยในการใช้ชีวิตให้คนพิการ ทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ของไทยไปพร้อมกัน”
////////////////////// วัฒนะ แก้วก่า
Discussion about this post