ทางหลวงแพร่ “เล่นบทโหด” ตะเพิดพ่อค้าแม่ค้าลำใยข้างทาง เป็นการซ้ำเติมยุคยามข้าวอยากหมากแพง วอนพ่อเมืองช่วยด้วย

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ค้าลำใยแผงลอยข้างทางหลวงหมายเลข 101 ตอนแยกปากจั๊วะ – ถึงแยกเจริญราษฎร์ ระหว่าง กม. 231+700-กม.232+300 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จำนวนกว่า 20 ราย ซึ่งเป็นชาวบ้านที่มีฐานะยากจนรับลำใยจากเจ้าของสวนลำไยออกมาจำหน่ายหารายได้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ แต่ล่าสุดถูกแขวงทางหลวงแพร่ สั่งให้หยุดจำหน่ายในบริเวณดังกล่าว และอ้างว่าอันตราย และตั้งร้านค้าขายที่ผิด กฏหมายส่วนการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากผิวจราจรกำลังปรับปรุง จึงสั่งห้ามขายโดยไม่มีทางออกให้กับกลุ่มขายลำไยในขณะร้านค้าอื่นๆไม่ถูกไล่ วอนพ่อเมืองแพร่เห็นใจคนจน

ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยลำใยฯกล่าวว่า การค้าลำใยริมถนนจุดที่กรมทางหลวงสั่งห้ามมีการค้ามานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่สมัยถนน 2 ช่องทางจราจร มีจำหน่ายมาจนถึงปัจจุบัน จำหน่ายเพียงในช่วงลำใยออกผล
ผลิตเท่านั้นใช้เวลาราว 2 เดือนลำไยก็หมดแล้ว

“การค้าขายข้างทางเป็นโอกาสของชาวบ้านผู้มีรายได้น้อยรับลำใยจากสวนออกมาจำหน่ายสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว ซึ่งทุกร้านพร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่กรมทาง และไม่ได้ละเมิดหรือขัดขวางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด”

“ส่วนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่เกี่ยวกับร้านลำใย แต่เป็นเรื่องของคนขับรถหลับใน รวมทั้งการก่อสร้างผิวจราจรใหม่ซึ่งกลุ่มค้าลำใยก็พร้อมปฏิบัติตาม การที่กรมทางหลวงห้ามไม่ให้ขายให้หยุดไปเลยชาวบ้านคงขาดรายได้ ความจริงแล้วผู้บริหารจังหวัดควรมองเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านถ้าจะไม่ให้ขายในบริเวณดังกล่าวก็ควรจัดที่จำหน่ายให้กับชาวบ้านแทน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าลำใยฯ ได้ฝากขอความเห็นใจไปถึง นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่และนายกฤติเดช ศรียงค์ ผู้อำนวยแขวงการทางแพร่ โปรดเมตตาผู้มีรายได้น้อยให้ได้จำหน่ายต่อไปเพียงเดือนสิงหาคมลำใยก็หมดแล้ว

สำหรับทางหลวงหมายเลข 101 ทางหลวงหมายเลข 103 และทางหลวงหมายเลข 11 ในจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะตรงสามแยกเด่นชัยมีการตั้งแผงลอยค้าขายริมทางจำนวนมาก แต่กรมทางไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่กลับมาห้ามผู้ค้าลำไยซึ่งเป็นการขายในระยะสั้นๆโดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำชาวบ้านต้องการสร้างรายได้และเป็นการซ้ำเติมยุคยามข้าวอยากหมากแพงด้วย

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่