เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 เวลา 07.31 น.ร.ต.อ.ชวลิต เทรักษี พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แจ้งว่า พบหญิงไม่ทราบชื่อได้กระโดดลงแม่น้ำแล้วจมหายไป เหตุเกิดท่าน้ำหน้า รร.สตรีศรีน่าน ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน ,พ.ต.ท.สุรศักดิ์ มีเสาเรือน รอง ผกก (สอบสวน)สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน, พร้อมด้วยจนท.ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบทีมกู้ชีพ ,จนท.กู้ภัยของ เทศบาลเมืองน่าน ,จนท.อบจ.น่าน,กู้ภัยสว่างน่านและกู้ภัยเพชรเกษม เขตเมืองน่าน ในที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะผู้หญิงสีชมพู จำนวนหนึ่งคู่ พบรอยเท้าเดินลงแม่น้ำน่าน จึงได้ทำแผนที่และบันทึกรายละเอียดต่างๆเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายณรงค์ ทดสูงเนิน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 49/21 หมู่ที่ 14 ต.ห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นสามีนางสาวกนกวรรณ ปราระบับ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 101/1 หมู่ที่ 4 ต.เริงราง อ.เสาให้ จ.สระบุรี ผู้สูญหาย ว่าได้ออกไปตลาดตอนเช้าโดยใส่กางเกงขาสั้น เสื้อสีเหลือง ตนเองทันเจอหน้าภรรยาของตนเอง จนก็กระทั่งประมาณ 07.30น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาหาตนแล้วแจ้งให้ตนมาดูรถที่จอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุว่าใช่ รถ จยย.ของภรรยาของตนเองหรือไม่ เมื่อตนมาดูรถ จยย.ตามที่ จนท.ตรแจ้งมานั้น ก็ใช่รถจยย.ของภรรยาตนเองที่ขับขี่ออกจากที่บ้านเพื่อไปซื้อของที่ตลาดจริง แต่จนท.ตร.ได้แจ้งว่า ภรรยาของตนเองได้กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแล้ว ขณะนี้ ยังไม่พบร่างของภรรยาของตนเอง
ด้าน นายณรงค์ เล่าว่า นางสาวกนกวรรณ ผู้สูญหายดังกล่าวเคยมีครอบครัวแต่ได้หย่าร้างแล้ว มีลูกติดมาด้วย 1 คน จากนั้นนางสาวกนกวรรณ ก็ได้มีครอบครัวใหม่กับตนเอง โดย มีอาชีพ ขายก๋วยเตี๋ยว แล้วได้เช่าบ้าน อยู่ด้วยกัน ที่หลังโรงเรียนสตรีศรีน่าน ได้ประมาณ 1 ปีกว่า โดยปกตินางสาวกนกวรรณ ผู้สูญหายนั้น ชอบดื่มสุรา ทุกวัน มีอาการคล้ายโรคซึมเศร้า แต่ไม่นึกว่าจะมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายในครั้งนี้
จากการสอบถามนายอรุณ สองสีโย พยานที่นั่งตกปลาในที่เกิดเหตุยืนยันว่าเห็นนางสาวกนกวรรณ ผู้สูญหาย เดินไปริมน้ำน่าน แล้วกระโดดลงแม่น้ำน่าน โดยที่แรกพยานเข้าใจว่ามาเล่นน้ำจนกระทั้งเห็นจมน้ำดังกล่าว บริเวณที่เกิดเหตุกระแสน้ำวนและเชี่ยวลึกมาก จึงรีบแจ้ง 191 / 1669 เพื่อรีบมาช่วย คนจมน้ำดังกล่าว
หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ได้มาอำนวยการ ประสานหน่วยงานร่วมปฏิบัติการค้นหาทางน้ำประกอบเทศบาลเเมืองน่าน เรือกู้ภัย 1ลำ เจ้าหน้าที่ทางน้ำ 6 นาย ,อบจ.น่าน เรือ 2 ลำ เจ้าหน้าที่ 11 นาย , กู้ชีพสว่างนครน่านร่วมใจ เรือ 1 ลำ จนท. 3 นาย และมูลนิธิเพชรเกษมน่าน (สนง.ใหญ่ท่าวังผา) สนับสนุนทีมประดาน้ำ เรือท้องแบน 1 ลำ เจ็ทสกี 1 ลำ จนท. 6 นาย ล่าสุดเวลา 17.00 น. จึงได้ยุติการค้นหาใต้น้ำกรณีบุคคลสูญหายภายในลำน้ำน่าน บริเวณสะพานพัฒนาภาคเหนือ อ.เมืองน่าน จ.น่าน เนื่องจากกระแสน้ำแรงและเชี่ยวกราก การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เบื้องต้นยังไม่พบผู้สูญหาย โดยจะเริ่มค้นหาใหม่ในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 นเป็นต้นไป ถ้าหากใครพบเห็นผู้สูญหาย โปรดแจ้ง 191 หรือ 1669 ได้ตลอด 24 ชม.
ต่อมาเมื่อเวลา 18.01 น.ร.ต.อ.จารุกิตติ์ ทนันชัย พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แจ้งว่า มีชาวบ้านออกหาปลา พบศพสวมใส่เสือสีเหลืองคล้ายกับหญิงสาวที่กระโดดน้ำแล้วหายไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น โดย ร่างหญิงสาวดังกล่าวได้ไปติดเบ็ดราวตกปลากลางแม่น้ำน่านฝั่งบ้านป่าหัด ตำบลม่วงตึ้ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุที่หญิงสาวดังกล่าวกระโดดลงแม่น้ำน่าน เกือบ 3 กิโลเมตร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน ,พ.ต.ท.สุรศักดิ์ มีเสาเรือน รอง ผกก (สอบสวน)สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน, พร้อมด้วยจนท.ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบทีมกู้ชีพ ,จนท.กู้ภัยของเทศบาลเมืองน่าน ,จนท.อบจ.น่าน,กู้ภัยสว่างน่านและกู้ภัยเพชรเกษม เขตเมืองน่าน และ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลน่าน ร่วมกันตรวจสอบชันสูตรพลิกศพนางสาวกนกวรรณ ปราระบับ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 101/1 หมู่ที่ 4 ต.เริงราง อ.เสาให้ จ.สระบุรี ผู้สูญหาย และได้เสียชีวิต โดยที่นายณรงค์ ทดสูงเนิน อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นสามี และ นายสราวุธ จุลทอง อายุ 39 ปี เป็นลูกของผู้ตาย พร้อมญาติพี่น้องได้มาดูศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว ต่างได้ยืนยันว่าร่างผู้ตาย ดังกล่าวคือ นางสาวกนกวรรณ ตามหลักฐานที่แจ้งความไว้เมื่อตอนเช้าจริง ซึ่งผู้ตายมีโรคความดันโลหิตและบางครั้งผู้ตายก็ชอบมีพฤติกรรมขึ้นรถโดยสารกลับบ้านโดยไม่บอกใครและบางครั้งชอบออกจากบ้านไปในตอนกลางคืน หลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับทีมแพทย์ชันสูตรพลิกศพ นิติเวชโรงพยาบาลน่านร่วมการตรวจชันสูตรพลิกศพแล้ว สาเหตุที่เสียชีวิตน้ำท่วมปอด ขาดอาหารหายใจ
จากการสอบถามนายพัน อุดธิ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่พบศพนางสาวกนกวรรณ เป็นคนแรก เล่าว่า ตนเองได้ออกวางเบ็ดคลาวหาปลา(เบ็ดราว)ตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงเวลาที่เกิดเหตุ ขณะที่ออกเก็บเบ็ดคลาวหาปลา(เบ็ดราว) พบว่าได้ปลาติดเบ็ดมา จำนวน 2 ตัว และออกไปกู้ถึงกลางแม่น้ำน่านมีความรู้สึกว่ามีอะไรมาติดเบ็ดและหนักมากคิดว่าวันนี้ต้องได้ปลาตัวใหญ่แน่นอน จึงได้ไล่ไปเก็บเบ็ดดังกล่าว พบว่าสิ่งที่ติดกับเบ็ดตกปลานั้น กลายเป็นร่างหญิงสาวที่กระโดดน้ำฆ่าตายตอนเมื่อเช้า ด้วยความตกใจตนเอง จึงกระโดดลงจากเรือและทิ้งปลาและร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่กับราวเบ็ด ดังกล่าวโดยไม่สนใจอะไร ทั้งสิ้น เมื่อตนได้ขึ้นถึงฝั่งจึงได้ตะโกนร้อง เพื่อนและชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำ ช่วยแจ้ง191และ1669 จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจนท. ที่เกี่ยวข้องมาในที่พบศพดังกล่าว เพื่อทำการเก็บ กู้ร่างนางสาวกนกวรรณ ดังกล่าวขึ้นมาจากแม่น้ำน่าน มาตรวจสูตรพลิกศพดังกล่าว
ก่อนที่จะพบศพ ในครั้งนี้ ซึ่งทางญาติได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อทราบว่านางสาวกนกวรรณ ได้กระโดดลงน้ำน่านแล้วได้หลายตัวไป ซึ้งทาง จนท.ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยดันค้นหาตั้งหลายชั่วโมงก็ไม่เจอ ตนจึงได้พึ่งทาง ไสยศาสตร์ ที่พระอาจารย์องค์หนึ่ง ที่วัดบ้านขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยขณะที่ไปนั้น พระอาจารย์ ท่านได้งดรับกิจนิมนต์แล้ว แต่ด้วยความสงสาร ท่านพระอาจารย์ ก็ช่วยทำพิธี ให้ แล้วบอกว่าจะพบศพ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน อยู่ห่างๆหรือใกล้ๆสะพาน จากนั้น ก็พากันขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงกลางทางระหว่างกลับบ้าน ทางทางญาติก็ได้ โทรศัพท์มาแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว อยู่ห่างจากที่พระอาจารย์ท่านได้คาดคำทำนายไว้จริงๆ
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของนางสาวกนกวรรณ ในครั้งนี้ทางสามีและญาติ ไม่ติดใจในการ เสียชีวิตในครั้งนี้แต่อย่างใด จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิต ให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
@@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน
Discussion about this post