วันนี้ 26 สิงหาคม 2567 ที่บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ได้จัดกรุ๊ปทัวร์มากินทุเรียนในเบตงกันอย่างคึกคักในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างนำทุเรียนพันธุ์พวงมณี หมอนทอง และทุเรียนพื้นบ้านของเบตง พร้อมด้วยผลไม้ต่างๆ มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทุเรียนพวงมณี และทุเรียนพันธุ์มูซังคิง หรือ เหมาซานหว่อง ทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านของเบตง ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก
นางมณีรัตน์ อริยะชาญราชกุล แม่ค้าขายทุเรียน กล่าวว่า ปีนี้ทุเรียนของมาเลเซียออกผลผลิตตรงกับทางบ้านเรา ทำให้ราคาลดลงนิดหน่อย ซึ่งราคาทุเรียนบ้านเราก็ไม่แพงเกินอย่างพวงมณี กก.ละ 150 – 200 บาท โอฉี่หรือหนามดำ กก.ละ 250 – 350 บาท ทุเรียนพันธุ์มูซังคิง กก.ละ 200-300 บาท ไม่เกินราคานี้ โดยในแต่ละวันโดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ขายทุเรียนได้ประมาณ 200-300 ลูกได้ต่อวัน ส่วนวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ขายได้ประมาณ 40- 50 ลูกต่อวัน บางวันก็ขายได้ถึง 100 ลูกก็มีแต่ก็ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงวันไหนมากสุด ซึ่งทุเรียนบ้านเรามีราคาถูกกว่าประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์กว่าเท่าตัว จึงทำให้ในช่วงนี้ มีนักท่องเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์มากินทุเรียนตามสถานที่ท่องเที่ยวของเบตง หรือตามสวนทุเรียนของเกษตรกร เป็นจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรสามารถระบายผลผลิตทุเรียนได้อีกช่องทางหนึ่ง
ด้าน นางหยางจื่อ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เปิดเผยว่า ตนเองชื่นชอบในการเดินทางมาท่องเที่ยวใน อ.เบตง เกือบทุกอาทิตย์ที่พาครอบครัวมาเพราะที่นี่มีอากาศดี อาหารอร่อย เหมาะกับผู้สูงอายุอย่างเขา โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงผลไม้ และมีผลไม้ตามฤดูหลากหลายอย่าง อีกทั้งมีราคาถูก และมีให้รับประทานเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวชอบกินทุเรียนมาก โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์พวงมณี และทุเรียนพันธุ์มูซังคิง หรือ เหมาซานหว่อง เพราะมีรสชาติอร่อย เนื้อมีสีเหลืองเข้ม ที่สำคัญราคาถูกอีกด้วย
โยธิน ประชามติรัฐ/ข่าว
อับดุลมานะ ดอฆอ/ภาพ
อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน
Discussion about this post