
วันที่ 28 ต.ค.2567 ที่หน้าด่านพรมแดนจุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางไปเป็นประธานในพิธีส่งมอบคืนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจากศูนย์ปฏิติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ซึ่งนายภูมิธรรมเป็นประธาน และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เป็นประธาน ศปช.ส่วนหน้า จ.เชียงราย ให้กับทาง จ.เชียงราย และองค์กรปกครองส่นท้องถิ่นคือเทศบาล ต.แม่สาย เทศบาล ต.เวียงพางคำ และเทศบาล ต.แม่สายมิตรภาพ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้เข้าไปดูแลฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป หลังจากหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะฝ่ายทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ อาสารักษาดินแดน (อส.) หน่วยกู้ภัย ฯลฯ ซึ่งหลายหน่วยเดินทางมาจากหลายจังหวัดจำนวนหลายพันคน ฯลฯ ได้ระดมกำลังกันนำดินโคลนออกจากถนนและอาคารบ้านเรือนต่างๆ แล้วเสร็จจึงทะยอยเดินทางกลับ
โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันการฟื้นฟูชายแดนแม่สายในระยะหรือเฟสที่ 1 ได้สำเร็จเรียบร้อยโดยบางจุดเสร็จ 100% ซึ่ง ศปช.จะสรุปผลและแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป โดยปัญหาหลักคือความตื้นเขินของลำน้ำสายที่จำเป็นจะต้องขุดลอก เพราะตื้นเขินเดิมลึกกว่า 5 เมตรปัจจุบันเหลือเพียง 1 เมตรกว่าเท่านั้น รวมทั้งมีสิ่งปลูกสร้างล้ำเข้าไปใลำน้ำ การดำเนินการคือให้ลำน้ำมีความลึกและกว้างให้มากขึ้นไม่เช่นนั้นปัญหาก็เกิดขึ้นอีกจึงต้องหารือกับทุกฝ่าย รวมทั้งประเทศเมียนมา เพื่อขุดดินโคลนและสร้างพนังระยะทางประมาณ 2 กิโเมตร นอกจากนี้คงต้องหาพื้นที่ทำแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำต่อไป คาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 2 เดือนและไม่เกิน 3 เดือนเพื่อให้แล้วเสร็จทันก่อนถึงฤดูฝนปีหน้าต่อไป โดยตนตั้งใจเอาไว้ว่าให้ทันช่วงเวลาดังกล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการสำรวจพื้นที่แล้วและกรณีการสร้างพนังกั้นลำน้ำ ทางกรมโยธิการและผังเมืองจะรับผิดชอบ ทราบว่าได้มีการออกแบบโครงการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งทำคือนำเสนอต่อคณะรัฐมนรีเพื่อขออนุมัติงบประมาณดำเนินการเพื่อให้ทุกหน่วยงานแยกกันดำเนินการ สำหรับฝั่งประเทศเมียนมาเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเพราะมีสงครามภายในจึงอาจจะไม่มีเวลาเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก กระนั้นจากการหารือที่ผ่านมาก็ถือว่าประเทศเมียนมาให้ความเข้าใจโดยเริ่มต้นด้วยการให้ฝ่ายไทยเข้าไปทำงานในลำน้ำสายซึ่งเป็นลำน้ำสายนานาชาติก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากแล้ว โดยเฉพาะระบบเตือนภัยทางผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้หารือกับประเทศเมียนมาจนสามารถติดตั้งได้แล้วหลายจุด
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีมีความสังสัยว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากดินโคลนถล่มจากเหมืองแร่ในประเทศเมียนมาว่า เรื่องนี้อยู่ในเขตประเทศเมียนมา ซึ่งคงต้องมีการเจรจาหารือกันต่อไป เพราะถือเป็นภัยจากธรรมชาติ แต่สิ่งที่ต้องทำไปพร้อมๆ กันคือการป้องกันในพื้นที่ของเราเอง ซึ่งจากแนวทางต่างๆ ที่จะดำเนินการทำให้ตนมั่นใจว่าปีหน้าน้ำจะไม่ท่วมพื้นที่แม่สายหนักอีก.
Discussion about this post