
วันนี้ 30 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมราชสีห์ ที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการค้าชายแดน โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการรถขนส่ง(รถกระบะคอก) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ตำรวจ สภ สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ศุลกากรสังขละบุรี ผู้ประกอบการชิ๊ปปิ้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
ทั้งนี้จากข้อบังคับเดิมที่กำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเฉพาะวันจันทร์ ตั้งแต่ช่วงไป ถึงวันพฤหัสบดีเวลา 20.00 น. และงดส่งสินค้าในช่วงวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ บนเส้นทาง 323 ช่วง สังขละบุรี-ทองผาภูมิ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 นั้น
ชมรมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าชายแดนไทย-เมียนมา ได้ขอให้ช่วยผ่อนปรนมาตรการนำเข้า-ส่งออกสินค้าสด เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ในการนำเข้าส่งออกด่านสังขละบุรี จึงขอให้อำเภอสังขละบุรี ช่วยพิจารณาแก้ไขปัญหาแก้ไขปัญหานี้ให้กับผู้ประกอบการค้าชายแดนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งปัญหาความแออัดของพื้นที่ขนถ่ายสินค้า ระยะเวลาในการวิ่งรถ และสินค้าขาดตลาด ผิวถนนที่เป็นอุปสรรคทั้งรถขนส่งสินค้าและรถนักท่องเที่ยวที่สัญจร
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้เสนอข้อเรียกร้องให้ผ่อนปรนข้อจำกัดเวลาในการขนส่งสินค้า(งดวิ่งขนส่งสินค้าวันศุกร์-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เพื่อบรรเทาปัญหาความแออัดของพื้นที่ขนถ่ายสินค้า รวมถึงปัญหาระยะเวลาการวิ่งรถที่เว้นช่วงวันหยุดไป ทำให้สินค้าสดขาดแคลน สำหรับถนน 323 ที่ใช้เป็นเส้นทางหลัก ในขณะนี้มีสภาพทรุดโทรม ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าและการสัญจรของนักท่องเที่ยว ทางอำเภอสังขละบุรีจึงพิจารณาหาทางช่วยเหลือโดยจะประสานไปยังทางหลวง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดน
ซึ่งวันนี้อำเภอสังขละบุรี โดยนายสุริยะศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นในส่วนของผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้า (ชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-เมียนมา (บ้านพุน้ำร้อน) ตามหนังสือสั่งการของนายศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี (ปฎิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี) ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 อำเภอสังขละบุรี จะจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และการค้า ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องดังกล่าว เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้รับฟังจากการประชุมทั้ง2ครั้งเพื่อนำเสนอต่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีให้ทราบประกอบการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้สังขละบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ สะพานไม้อุตตมานุสรณ์(สะพานมอญ)สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย วัดวังก์วิเวการาม(วัดหลวงพ่ออุตตมะ) เมืองบาดาล ชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ ด่านเจดีย์สามองค์ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จากข้อมูล จังหวัดกาญจนบุรี
พบว่า จากข้อมูลของจังหวัดกาญจนบุรี พบว่าในปี2567 (ม.ค-ก.ย) มีจำนวนนักท่องเที่ยว 750,447 คน รายได้ 1,806.29 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันนับได้ว่าธุรกิจท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของอำเภอสังขละบุรีที่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
ขณะที่การขนส่งสินค้าผ่านช่องทางจุดผ่อนปรนชั่วคราวบ้านพระเจดีย์สามองค์ที่เริ่มมีปริมาณเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี2566(เนื่องจากการสู้รับระหว่างรัฐบาลเมียนมากับชนกลุ่มน้อยในประเทศเมียนมา ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าชายแดนไทย-เมียนมา เปลี่ยนเส้นทางขนส่งจากช่องทาง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และด่านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี มาใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรีแทน จนส่งผลกรทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมารถขนส่งสินค้า(รถบรรทุกพ่วง-รถกระบะคอก)มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากถนน323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ เป็นถนนขนาด2ช่องทางการจราจร ที่ถูกสร้างมาเพื่อการสัญจรของประชาชน ไม่สร้างมาเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาบริเวณรถและน้ำน้ำบรรทุกที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ปัจจุบันถนนมีสภาพความเสียหายให้เห็นตลอดระยะทาง74 ก.ม. จนส่งผลกระทบต่อการใช้รถใช้ถนนของประชาชนและนักท่องเที่ยว
///////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post