เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น.นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายความชื่อดังของจังหวัดอำนาจเจริญพร้อมทีมงานผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่วัดป่าทองสมรรัตนาราม ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ไปพบกับพระครูกมล วัฒนาทรเจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม เจ้าคณะตำบล ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน เลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เพื่อรับมอบสำเนาใบแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าอาวาสมอบให้กับทนายความพร้อมแต่งตั้งให้เป็นทนายความคิดตามคดีที่โดนมิจฉาหลอกตุ๋นให้ให้ถึงที่สุด
นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายความชื่อดังจังหวัดอำนาจเจริญ หลังจากได้รับสำเนาแจ้งความแล้ว กล่าวว่า ตามสำเนาบันทึกการแจ้งความฉบับลงวันที่ 26 ตุลาคม 2567 มีผู้เกี่ยวข้อง หรืออาจมีมากกว่า 3 คน หากมีการสอบสวนขยายผลของพนักงานสอบสวน สอบเจ้าอาวาสวัดอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน (ขอสงวนนามพนักสอบสวน) สภ.หัวตะพาน รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จัดทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหายไว้ และจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้น นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายความกล่าวอีกว่าตนขอชี้ช่องทาง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้าย ตามบันทึกการแจ้งความที่มีข้อเท็จจริง และมีรายละเอียดมากอยู่แล้ว ตั้งเบอร์โทร ชื่อผู้หลอกให้โอนเงิน และชื่อบัญชี ธนาคารฯลฯชึ่งพอจะติดตามผู้ก่อเหตุได้ไม่ยากนักชึ่งหลักฐานต่างๆก็เยอะอยู่แล้วในการกระทำความผิดเกิดขึ้นในครั้งนี้โดยไม่ยากนักเลย เพราะมีการโอนเงินให้นายมนตรี ก้อนน้วม แล้วจำนวน 50,000 บาท ชึ่งโอนทั้ง2ครั้งถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ตามเอกสารการโอนเงิน เข้า – ออก เข้าข่ายฉ้อโกงผิดกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุก 3 ปี มีการแอบอ้างหลอกลวงทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ส่วนกรณีจะมีความผิดข้อหาปล้นทรัพย์หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวน สืบสวน ขยายผลต่อไป หากผลการสืบสวน สอบสวน มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 3 คนขึ้นไป ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาข้อหาปล้นทรัพย์ ตามกฎหมายอาญา นายจำรัสยังกล่าวอีกว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องศาสนา วัดวาอาราม เข้มงวดเป็นกรณีพิเศษด้วย เพราะมีวัดมากกว่า 40,000 วัด ทั่วประเทศ ต้องดูแลเป็นกรณีพิเศษเนื่องในระยะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลบุญกฐินทั้งประเทศ นายจำรัสกล่าวในที่สุด
ด้านพระครูกมล วัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมร กล่าวว่า อาตมาอยากขอวิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เร่งตามตัว หาคนร้ายให้ได้ และนำเงิน 50,000 บาทที่อาตมาโอนให้นั้น มาคืนอาตมาด้วย อาตมา ขอบิณฑบาตจะไม่เอาโทษอะไรเลย ทุกวันนี้อาตมานอนไม่หลับเลยเพราะคิดถึงเงิน 50,000 บาท เพราะมันเป็นเงินของ ญาติโยมมาทำบุญเพื่อก่อสร้าง อุโบสถให้แล้วเสร็จ อาตมาก็ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและทางทนายความจำรัส ไกยสิทธิ์ ให้เร่ง ติดตามให้ อาตมาด้วยเทอญ อาตมา ขอเจริญพร
ภาพ-ข่าว/นายทิพกร หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ รายงาน 087 958 0670
Discussion about this post