เมื่อเวลา15.00น.วันที่4พย.67 นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีร่วมรับฟังการแก้ไขปัญหาช้างป่า จากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไนจังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยช้างป้าเขาอ่างฤๅในเข้าพักอาศัยในพื้นที่ป่าสะเดา ระหว่างบ้านโปร่งศรีเจริญหมู่ที่8 บ้านคลองตามั่น หมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว กับบ้านวังกวาง หมู่ที่ 11 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ที่หมดสัมปทานจากเอกชน ชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่า ทั้ง 2 ตำบล เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน ได้ทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นประจำทุกปี

จากการปรึกษากับ สำนักจัดการทรัพยากรป้าไม้ที่9 ปราจีนบุรี และ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินการและศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาช้างป้าอย่างยั่งยืน สภาผู้แทนราษฎรพร้อมทั้งเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้ง 2ตำบล พิจารณาแล้วเห็นว่า
- ขออนุญาตเข้าดำเนินการการปรับปรุงถนนในบริเวณป้าสะเดา (เดิมที่มีอยู่แล้ว) สามารถให้ชุด
ผลักดันช้างป้าตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เข้าทำการผลักคันข้างป้าได้อย่างปลอดภัย - การคำเนินการดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์จากเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้ง 2 ตำบล โดยไช้รถแทรกเตอร์ไถดันบริเวณถนเพื่อให้รถยนต์และชุดผลักคันช้างสามารถเข้าดำเนินการผลักดันและมองเห็น
ช้างป้าได้ในระยะไกลร่วมกับชุดบินโครน ของทั้ง 2 ตำบล - ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการพื้นที่ป่าดังกล่าวให้เป็นที่โล่งไม่รกทึบอีกต่อไปใน
อนาคต - ผลที่จะได้รับ
4.1 ราษฎรในพื้นที่รอบบริเวณดังกล่าวทั้ง 2 ตำบล ได้ประกอบอาชีพในที่ดินของตนเองอย่าง
ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
4.2 การผลักดันช้างป่าปลอดภัยรวดเร็ว
นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีกล่าวว่า จากการลงพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านคลองตามั่น ต.เขาไม้แก้ว ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.เขาไม้แก้ว อบต.วังท่าช้าง และจิตอาสาฯ พบว่ายังมีช้างเหลืออยู่ในพื้นที่จำนวน 1 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ออกทำการผลักดันทุกคืน ในส่วนผมเพลงได้พูดคุยปรึกษากับหน่วยงานทั้งกรมอุทยานฯ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แนวทางจะป้องกันปัญหาที่จะส่งผลกระทบนั้น ในแผนงานระยะยาว กรมอุทยานฯดำเนินงานต่อไป เพราะชัดเจนอยู่แล้ว แต่ปัญหาเฉพาะหน้าถือว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องเฝ้าระวังป้องกัน ไม่ให้ช้างมาส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้สั่งการให้ทางกรมอุทยานจากเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเข้ามาในเรื่องลาดตระเวน ตามแนวเขตอุทยานฯที่เป็นจุดที่ช้างจะออกมานอกเขตป่าอุทยานฯ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทุกวันนี้พี่น้องประชาชนเป็นจิตอาสาที่ร่วมกันป้องกันช้างอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว
Discussion about this post