หลวงพี่น้ำฝน เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการบวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเข้มเน้นการตรวจสอบประวัติทุกมิติของผู้เข้าสมัครในโครงการ ก่อนจะสานต่อพิธีการบวชดั้งเดิมให้คงอยู่เป็นไปตามมาตรฐานและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ส่วนหลังจากเป็นพระภิกษุจะมีการผลักดันให้เรียนรู้ทางด้านพระธรรมคำสั่ง การบาลี การปฎิบัติหน้าที่ภายในวัด โดยเน้นการวางตัวให้เหมาะสมเป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธาของญาติโยม ท่ามกลางกระแสดราม่าของวงการผ้าเหลืองในโลกโซเชียลทุกวันนี้
วันที่ 10 พฤศจิกายน 67 ที่ลานหน้าโดมที่ประดิษฐาน พระองคุลิมาลเถระ วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการเปิดโครงการอุปสมบทหมู่ วัดไผ่ล้อม ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2567 โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการออุปสมบทหมู่ พร้อมด้วยญาติโยมและเจ้าภาพที่ขอเป็นผู้สนับสนุนโครงการเข้าร่วมในพิธีร่วมกันตัดผมให้พ่อนาค ด้วยบรรยากาศชื่นมื่นอิ่มบุญโดยพร้อมเพรียง
โดยในช่วงเริ่มพิธี หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้มีการกล่าวให้ศีลและพรซึ่งได้มีการแจ้งให้กับพ่อนาคและญาติโยมที่มาร่วมในพิธีได้ทราบถึง วัตถุประสงค์ในการจัดโครงการดังกล่าวซึ่งเป็นโครงการที่วัดไผ่ล้อมได้ขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน โดยเป็นการบวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังได้มีการแนะนำถึงขั้นตอนและหลักการในการศึกษาเรียนรู้หลักพระธรรมคำสั่งสอนขณะที่อยู่ในวัดไผ่ล้อม โดยพระภิกษุสงฆ์ทุกรูป จะต้องมีบทบาทหน้าที่ในการทำงาน รวมถึงจะต้องหมั่นศึกษาทางทำให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้
สำหรับช่วงนี้หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมได้มีการ วางมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบประวัติต่างๆของผู้เข้าร่วมบวชในโครงการยังเคร่งครัด เป็นไปตามหลักการที่จะต้องมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม การตรวจโรค และการตรวจสอบสภาพจิตใจ เพื่อให้ผู้ เข้าร่วมพิธีบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ตามคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการบวช เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันรูปแบบสังคมได้มีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงมีสภาวะที่จำเป็นต้องเข้มงวดคัดสรรให้ผู้เข้ารับ คัดเลือกในโครงการเป็นบุคคลที่ที่มีความพร้อมสามารถที่จะศึกษาทางทำและสืบสานพระพุทธศาสนารวมถึงเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จากการสอบถามหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ให้ข้อมูลว่าแม้จะมีการตรวจสอบข้อมูลประวัติต่างๆตามหลักการสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่จะบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ในวัดไผ่ล้อมไว้แล้ว แต่จะพบว่าปัจจุบันตามสื่อหลักและสื่อโซเชียลจะมีปรากฏภาพของพระภิกษุสงฆ์บางรูป หรือบางครั้งก็จะเป็นพระปลอมที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในรั้ววัด และประพฤติปฏิบัติตน ไม่เหมาะสมเป็นที่เคลือบแคลงใจของพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งนับจากนี้วัดไผ่ล้อมจะมีการเข้มงวดและมีการติวเข้ม ทั้งการวางตัวในการท่องบทสวดต่างๆที่เป็นพื้นฐานสำหรับการเข้ารับการบวชให้คล่อง การประกอบพิธีในโบสถ์อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีเอาไว้ให้คงอยู่ รวมถึงหลังจากได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ก็ต้องมีมาตรการเข้มงวดในการวางตัว การปฎิบัติตน ให้เหมาะสมทั้งขณะอยู่ในรั้ววัด และออกไปปฏิบัติศาสนกิจภายนอกเพื่อให้เป็นที่มั่นใจแก่ญาติโยม และสร้างศรัทธาที่ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีความเคลือบแคลงสงสัยในหลายประการสำหรับการประพฤติตนของพระภิกษุสงฆ์
“อาตมาได้สั่งการให้คณะสงฆ์ผู้ดูแลรับผิดชอบในด้านนี้ให้เข้มงวดและส่งให้มีการการตรวจรับคนเข้าโครงการบวชทุกโครงการไม่ว่าจะเป็นโครงการบวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย บวชตามประเพณี หรือเข้ามาขอบวชเพื่อศึกษาทางทำ เหล่านี้จะมีคณะสงฆ์คัดสรรอบรมและดำเนินการส่งเสริมผลักดันในการเรียนบาลี โดยที่ที่ผ่านมาคณะสงฆ์ไผ่ล้อมได้มีการเรียนทางทำอย่างต่อเนื่อง และมีการปฏิบัติศาสนกิจทั้งการทำวัตรเช้า เย็น การบิณฑบาต การสวดมนต์ ให้เป็นไปตามหลักการ โดยยังมีการทำหน้าที่ต่างๆภายในวัดเพื่อให้เกิดความสวยงาม ร่มเย็น ปราศจากยาเสพติด อาชญากรรมและ สิ่งไม่ดีจากสังคมภายนอก เพื่อให้ผู้เข้ารับการบวชได้ ประโยชน์โดยแท้จากการบวชของวัดไผ่ล้อม” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
Discussion about this post