เวลา 09.30 น.ที่หอประชุมหมู่บ้านบ้านนาทะนุง ชาวบ้านกว่า 100 คนรวมตัวประท้วงและรอฟังคำชี้แจงความคืบหน้ากรณีอดีตผู้ใหญ่บ้านหญิงวัย 41 ปี ยักยอกกองทุนเงินออมที่ชาวบ้านประหยัดอดออม หวังใช้ในบั้นปลายชีวิต บางส่วนถึงกับร้องไห้โห โดยเมื่อ 3 ปีก่อน ทางชาวบ้านได้รวมตัวกันและมีมติร่วมกันจัดตั้งกลุ่มออมเงินภายในหมู่บ้าน โดยกำหนดให้สมาชิกสามารถให้กู้ยืมและดอกเบี้ยโดยกำหนดปันผลทุก 3 ปี โดยจะครบกำหนดปันผลในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างรอคอยและดีใจที่จะได้เงินปันผลรอบแรก แต่ก่อนทำการปันผล 1 วัน ผู้ใหญ่บ้านกับไลน์แจ้งในกลุ่มหมู่บ้านว่า ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ เนื่องจากได้นำเงินไปใช้เกือบหมดแล้ว ต่างพากันตกใจและเสียใจ จนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรนาหมื่น แต่ระยะเวลาผ่านมาหลายเดิน ก็ยังเห็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหญิงยังใช้ชีวิตตามปกติ
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนาหมื่น ได้เข้ามาชี้แจงกับชาวบ้านว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นต้องรอสอบพยานและรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ต่อไป
ด้าน นายทศพล จักรบุญมา นายอำเภอนาหมื่น กล่าวว่า ในกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านในตำบลนาทะนุง ได้นำเงินกลุ่มออมทรัพย์ ของพี่น้องชาวบ้าน บ้านนาทะนุง อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านกว่าบาท ไปใช้ส่วนตัว ซึ่งในเบื้องต้นได้รับแจ้งจากในพื้นที่ ทางอำเภอก็ได้ลงมาประชุมรับทราบปัญหาและข้อเท็จจริงร่วมกับสมาชิกในกลุ่มและคณะกรรมการที่ดำเนินการในเรื่องของกลุ่มออมทรัพย์ ทำให้ทราบว่ามีการดำเนินการเป็นกลุ่มออมทรัพย์ที่จัดตั้งขึ้นเองโดยพี่น้องชาวบ้านบ้านนาทะนุง ก็จะมีการออมทรัพย์กันนำเงินไปให้กับคณะกรรมการ แล้วคณะกรรมการก็นำเงินไปให้กับทางผู้ใหญ่บ้านไปฝากที่ธนาคาร เป็นระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านไม่ได้นำเงินไปฝากธนาคาร โดยสามารถรวบรวมข้อมูลได้คือประมาณห้าล้านบาทเศษ
ซึ่งล่าสุดทางหมู่บ้านได้มีการประชุมตกลงกันภายในหมู่บ้าน ทางผู้ใหญ่บ้านได้นำเงินมาคืนเบื้องต้นจำนวนสี่แสนบาท และรับว่าได้นำเงินไปใช้ส่วนตัวจริง คงเหลือเงินที่ยังไม่ได้คืนประมาณสี่ล้านเจ็ดแสนเศษ ซึ่งในส่วนของคดีทางแพ่งก็ได้มีการตกลงเจรจาก่อนฟ้องโดยศาลจังหวัดน่าน โดยทางผู้ใหญ่สัญญาจะจ่ายเงินคืนให้กับกลุ่มออมทรัพย์ ดังนี้ ในเดือน มกราคม 2568 จำนวน 100,000 บาท มีนาคม 100,000 บาท พฤษภาคม 100,000 บาท และหลังจากนั้นทุกหกเดือนจะจ่ายคืนครั้งละ 500,000 บาท จนกว่าจะครบ
แต่ว่ามันเบื้องต้น ทางผู้ใหญ่บ้านซึ่งก็ไม่สามารถที่จะดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอยู่ได้แล้ว ก็ได้ยื่นหนังสือลาออก จากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านซึ่งในเบื้องต้นทาง
อำเภอ ผมยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ก็เลยต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเรื่องราวมีที่มาที่ไปเป็นยังไง จนเราได้ทราบข้อเท็จจริงใช้อำนาจทางการปกครองในการอนุญาตให้ผู้ใหญ่ลาออกจากตำแหน่ง และได้ดำเนินการรายงานข้อเท็จจริงให้ทางจังหวัดเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้แจ้งในที่ประชุมว่า นอกจากอดีตผู้ใหญ่บ้านจะนำเงินกลุ่มออมทรัพย์ไปแล้ว ยังได้นำเงินค่าน้ำประปาหมู่บ้าน รวมทั้งเงินบำรุงฌาปนสถานไปอีกกว่า 50,000 บาท โดยจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการนำเงินส่วนไหนไปอีก
ทั้งนี้จากแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่าจากการตั้งกรรมการสอบสวน อดีตผู้ใหญ่ได้ยอมรับว่าได้นำเงินไปลงทุนออนไลน์ แต่เมื่อลงในลายละเอียดพบว่าเป็นการเล่นการพนันออนไลน์ ในส่วนของทางด้านคดี เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งแนวทางเป็นคดียักยอกทรัพย์ โดยจะแบ่งเป็นต่างกรรมต่างวาระ แต่ต้องรอสอบพยานและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจะดำเนินการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ต่อไป
@@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน
Discussion about this post