
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 2567 นายเจษฎา สี่พี่น้อง นายกเทศมนตรีเมืองชัยนาท ร่วมกับ ดร.สุธิมา เทียนงาม หัวหน้าโครงการวิจัยฯ สถาบันวิทยาลัยชุมชน ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท และบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เปิดโครงการ “ปลูกผักปลอดภัย ปลูกสุขภาพดี วิถีเมืองยั่งยืน” ณ อาคารชุมชนมณเฑียรทองรุ่งเรือง อ.เมืองชัยนาท โดยมี ตัวแทนจาก 18ชุมชนในเขตเมืองชัยนาท เข้าร่วมโครงการ
ดร.สุธิมา เทียนงาม งาม หัวหน้าโครงการวิจัยฯ สถาบันวิทยาลัยชุมชน เปิดเผยว่า คนจนเมือง มีทางเลือกจำกัดด้านที่อยู่อาศัย เข้าไม่ถึงสิทธิพื้นฐาน โดยเทศบาลเมืองชัยนาท เป็นศูนย์กลางของเมืองชัยนาท เป็นแหล่งค้าขาย มีหน่วยงานราชการ อาคารพาณิชย์ และที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย 16 ชุมชน ประชากรรวม 7,447 ครัวเรือน 11,675 คน ทางสถาบันวิทยาลัยชุมชน ได้รับสนับสนุนทุนวิจัยจากหน่วยงานบริหารและจัดการด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ หรือ บพท. ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ สร้างโอกาสทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม พัฒนา แก้ไขปัญหา ยกระดับโมเดลแก้จนที่สอดคล้องกับบริบทความยากจนในพื้นที่และสร้างรายได้ให้คนจน ซึ่งเทศบาลเมืองชัยนาท เป็นโมเดลต้นแบบแก้ไขปัญหา “คนจนเมือง”
ผักปลอดภัย เป็นหนึ่งในโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตคนจนเมือง เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ และเป็นพื้นที่มั่นคงทางด้านอาหารของครัวเรือนยากจนและคนในชุมชน ทางหน่วยงานในภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันสนับสนุนให้เกิดการปลูกผักปลอดภัยในพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน เป็นแปลงผักชุมชน และมีการแจกกะละมัง ตระกร้า เมล็ดพันธุ์ผัก ไปปลูกลงดินยกแปลงในพื้นที่ว่าง หรือวางตามรั้วตามกำแพง เพื่อไว้เก็บผลผลิตใช้ในครัวเรือน หากเหลือเยอะก็สามารถนำไปจำหน่ายได้ตามบริบทของครัวเรือนต่างๆ โดยจะมี อสม. เป็นพี่เลี้ยงและติดตามการปลูกอยู่เสมอ ในอนาคตอาจจะเป็นจุดผลิตและกระจายสินค้าผักปลอดภัยของจังหวัดชัยนาทได้อีกช่องทาง
นายเจษฎา สี่พี่น้อง นายกเทศมนตรีเมืองชัยนาท เผยว่า ในชุมชนเมืองชัยนาทเองมีครอบครัวที่ขัดสน ไม่มีที่ทำกิน ไม่มีที่ทาง รายได้น้อยมีกระจัดกระจายทั่วเขตอำเภอเมืองชัยนาท ทางเทศบาลฯได้ทำการหารือกับทางสถาบันวิทยาลัยชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการแก้ไขปัญหาขจัดความยากจน ได้ข้อตกลงด้วยการให้คนในชุมชน ใช้พื้นที่ว่างเปล่าทั้งที่เป็นของส่วนกลาง และพื้นที่ว่างภายในบ้าน ใช้ปลูกผักปลอดภัย เพราะผักนั้นเป็นอาหารที่ทานได้ทุกครัวเรือน ปลูกเองกินเองก็ลดรายจ่ายได้ ให้ทุกคนร่วมมือกันก็เกิดความสามัคคีในชุมชนได้อีก
Discussion about this post