วันที่ 18 ธค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องพบข้อความในfacebook ของเพจข่าวข่าวหนึ่งมีข้อความระบุว่า “ขออนุญาต admin ครับครอบครัวนี้ถูกหลอกไปจากบ้านบึงชลบุรี แล้วตอนนี้ถูกทิ้งอยู่ที่ 304 เขาอยากกลับชลบุรี”ให้ติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์นี้ได้เลยครับ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ตามที่บอกและได้สอบถาม โดยเจ้าของเบอร์โทรศัพท์บอกว่าตอนนี้ถูกให้ออกจากงานโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีเงินกลับบ้านสองครอบครัว ซึ่งจอดรถอยู่ริมถนนหน้าเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงเดินทางไปพบกับสองครอบครัวนี้ซึ่งมีเด็ก2คนคนโต4คนมีรถยนต์เก๋งหนึ่งคันรถยนต์กระบะหนึ่งคัน โดยทั้งสองครอบครัวยืนยันว่าอยากกลับบ้านเพราะผู้รับเหมาไม่ให้ทำงาน เงินไม่มีติดตัวจึงขอความช่วยเหลือ ทราบว่าสองครอบครัวมารู้จักกันที่หน้างานและได้ทำงานเมื่อวันที่ 15 ธค.ที่ผ่านมา ทางผู้รับให้พักที่โรงแรมใกล้ที่ทำงานซึ่งผู้รับเหมาเป็นคนจ่ายค่าที่พักให้

นายนพรัตน์ สังข์ทอง อายุ 39 ปีอยู่บ้านเลขที่ 71/4 หมู่ 2 แขวงกระทุ่มราย กทม.ตนเองกับนางสาวสมหญิง สนิสุริวงษ์ (ภรรยา)และลูกชายได้มาทำงานกับนายหน้า โดยรู้จักกับนายหน้าทาง facebook จัดหางาน และนัดเจอกันให้มาทำงาน นายหน้ารับตนเองจากหน้าสถานพินิจเด็กชลบุรี นายหน้าเป็นชายบอกว่าจะพามาทำงานที่ไซต์งานเกาะโพธิ์ และแวะตามทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงอำเภอกบินทร์บุรี ตอนนั้นรู้สึกเอะใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรขอแค่ว่าให้มีงานทำ เมื่อมาถึงกบินทร์บุรีนายหน้าก็ให้พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน โดยออกค่าที่พักให้และทำงานเกี่ยวกับหม้อแปลงไฟฟ้า และได้รู้จักกับนายมานัส กับภรรยา เพื่อนร่วมงาน วันนี้ตนไม่ได้ทำงานเพราะเป็นไข้ให้ภรรยาไปทำงานคู่กับนายมานัส โดยภรรยานายมานัสไม่ได้ทำงานเพราะมีลูกอ่อนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งเข้ามาทำงานพร้อมกัน 3 คน ได้ค่าจ้างวันละ600บาท ผู้หญิงได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท
วันนี้อยู่ๆเพื่อนกับภรรยาบอกว่าเขาไม่ให้ทำงานแล้ว และเขาให้ออกจากที่พักโดยเร็วเพราะไม่ได้ทำงาน เมื่อทางโรงแรมให้ออกจากที่พักจึงพากันออกมาอยู่ริมถนน และหาทางจะกลับบ้านทั้งที่เงินติดตัวไม่มี และได้ประสานหัวหน้าคนงานในไซต์งาน โดยให้นางสมหญิง เป็นคนเข้าไปคุยกับหัวหน้าคนงาน ระหว่างนี้เพื่อนร่วมงานบอกจะขอแยกทางกลับก่อนจะไปหาขายโทรทัศน์เพื่อจะมีเงินเติมน้ำมันกลับบ้าน จนทราบว่าเพื่อนร่วมงานรับเงินจากนายจ้างมาแล้วจำนวนหนึ่งแต่เพื่อนร่วมงานไม่บอกว่ารับเงินจากผู้รับเหมามาแล้ว คาดว่าเพื่อนร่วมงานทำงานหนักไม่ไหว เนื่องจากการรับคนงานมาทำงานแต่ละชุดจะต้องมีเพื่อนร่วมงาน10คน/ชุด แต่การรับสมัครงานชุดนี้มีคนมาทำงาน3คนคือนายนพรัตน์กับภรรยาและเพื่อน เมื่อคนงานไม่ครบจึงต้องทำงานหนักและไม่คิดทำงานต่อผู้รับเหมาจึงไม่ให้ทำงาน ซึ่งเพื่อนไม่บอกเรื่องการทำงานที่นี่และไม่บอกว่าไปเบิกค่าแรงกับผู้รับเหมามาแล้ว ทำให้ตนเองและภรรยาเดือดร้อนไปด้วย หลังจากทราบถึงที่มาที่ไปของเรื่องผู้รับเหมาจ่ายค่าแรงให้ 500 บาท ซึ่งนางสาวสมหญิงพอใจและรับเงินมาแล้วจึงเดินทางกลับภูมิลำเนาทันที
Discussion about this post