
วันที่ 23 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่องค์การบริหารส่วนตำบลพงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติพร้อมชาวบ้านพื้นที่ชายหาดสวนหลวง รวมตัวสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งข้อสงสัย กรณีชาวสวิดเซอร์แลนด์ ฝ่าฝืนคำสั่งนำฝูงสุนัขกลับมาเดินริมชายหาด หลังทราบว่า เดิมมีข้อตกลงกับอบต.พงศ์ประศาสน์ โดยมีคำสั่งให้นำสุนัขฝูงดังกล่าวออกจากพื้นที่ อ.บางสะพาน เสียก่อน หลังถูกฟ้องคดีหมากัดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเมื่อเดือน สิงหาคม 2567
ขณะที่ชาวบ้านบริเวณริมหาดสวนหลวง ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ระหว่างที่ผู้ถูกฟ้อง เจ้าของสุนัขฝูงที่เคยกัดชาวต่างชาติ และชาวบ้านในพื้นที่ กำลังนำสุนัขเดินไปตามริมหาด โดยไม่มีเชือกปอกคอล่ามแม้แต่ตัวเดียว ระหว่างพาเดินเล่นบริเวณริมหาด
จากคลิปผู้ถ่ายอธิบายพฤติกรรมของเจ้าของสุนัขฝูงนี้ขณะกำลังเดินกลับ เมื่อเห็นว่ามีชาวบ้านกำลังถ่ายคลิป ก็แสดงพฤติกรรมทำนองเย้ยหยันไม่สนคำสั่งห้ามนำสุนัขกลับมาก่อนคดีความจะสิ้นสุด ระหว่างที่เจ้าของพาฝูงสุนัขกลับในขณะนั้นมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กำลังลงเล่นน้ำทะเลจากคลิปสังเกตว่าทุกคนต่างยืนนิ่งด้วยอาการหวาดกลัว เนื่องจากเกลงจะโดนฝูงสุนัขเข้ารุมกัด ต้องปล่อยให้เจ้าของพาสุนัขผ่านไปเสียก่อน จากนั้นจึงจะวิ่งลงไปเล่นน้ำต่อได้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากคลิปจึงสอบถามถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว เนื่องจากเจ้าของสุนัขมีพฤติกรรมคล้ายไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ด้านนายทิพย์ อายุ 56 ปี เจ้าของคลิปวีดีโอ เล่าว่า ตนและชาวบ้านจำนวนหนึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการร้านอาหารในพื้นที่สวนหลวง ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการ ตั้งแต่เกิดเรื่องหมากัดฝรั่งและคนไทยอยู่บ่อยครั้ง รายได้จากการท่องเที่ยวบนชายหาดสวนหลวงลดลง นักท่องเที่ยวไม่ค่อยกล้าเดินทางมา เกรงจะไม่ปลอดภัยกรณีสุนัขไล่กัดทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จึงมีการรวมตัวที่ อบต.พงศ์ประศาสน์ เพื่อสอบถามกรณีเจ้าของฝูงสุนัข ฝ่าฝืนคำสั่งนำสุนัขกลับมาได้อย่างไร
เนื่องจากก่อนหน้าชาวบ้านร้องทุกข์ไปยังหน่วยงาน จากนั้นมีคำสัง อบต.พงศ์ประศาสน์ ให้นำสุนัขออกจากพื้นที่เสียก่อน โดยมิให้นำสุนัขที่ไล่กัดนักท่องเที่ยวกลับมา เนื่องจากคดีความยังไม่สิ้นสุด แต่กลับพบว่า เจ้าของเอาหมากลับมาเดินตามชายหาดอย่างสบายใจ โดยไม่สนคำสั่งแต่อย่างใด หลังถ่ายคลิปยังมีพฤติกรรมชูมือเยาะเย้ยต่อหน้ากล้อง ขณะพยายามอัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่พาบุตรหลานไปเล่นน้ำทะเลตามชายหาด ต่างวิจารณ์ตั้งข้อสงสัยเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงปล่อยให้เจ้าของหมานำหมากลับมาได้ ทั้งที่ยังเป็นคดีความอยู่ในชั้นศาล หลังมีการฟ้องคดีกรณี ชาวสวิดเซอร์แลนด์ ถูกสุนัขของเจ้าของหมากัดเข้าที่ขา ขณะเดินเล่นบริเวณชายหาดสวนหลวงพื้นที่ อ.บางสะพาน เมื่อเดือน สิงหาคม 2567
ด้านนาย โรฟ เล่าผ่านล่ามคนไทยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังเกิดเหตุการณ์หมาของหมากัดเข้าที่บริเวณขาโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2567 เนื่องจากอยู่ในไทยได้แค่ 2 เดือนก่อนกลับประเทศ จากนั้นนายโรฟ ทราบว่า เจ้าของหมาได้ถูกเจ้าหน้าที่กำหนดมาตราการสั่งห้ามนำหมาไปเลี้ยงก็รู้สึกสบายใจมีความสุข พอได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง จู่ ๆ ก็เห็นหมากลับมาเดินเล่นตามชายหาดเช่นเคย
นายโรฟ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกิดคำถามและตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าของหมานำหมากลับมาเดินเล่นตามชายหาดได้อีกหมายถึงอะไร และจะมีมาตรการในทางกฎหมายที่จะคุ้มครองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้อย่างไรบ้าง หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
ด้านนายธนาชัย บัวช่วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพงศ์ประศาสน์ เปิดเผยว่า ปัญหานี้มีการแก้ไขและพูดคุยระหว่างผู้เสียหายกับเจ้าของหมาโดยมีทุกภาคส่วนเข้าร่วม และมีแนวทางปฏิบัติตามกรอบกฎหมายที่ อบต.จะสามารถบังคับใช้ได้
ในส่วนคดีได้ดำเนินการฟ้องเจ้าของสุนัขแทนผู้ร้องทุกข์เป็นที่เรียบร้อย แต่เนื่องจากทนายฝั่งเจ้าของหมายื่นอุทรณ์ ให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีรายงานว่าไม่พบว่ามีสุนัขที่กัดชาวต่างชาติอยู่ในบ้านมีเพียงสุนัขเล็ก ๆ เพียงสองตัวที่เลี้ยงไว้ เป็นเหตุให้เจ้าของหมาชนะคำฟ้อง จากนั้นสั่ง อบต.ให้ระงับเรื่องไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีฟ้องยังไม่สิ้นสุด แต่เจ้าของนำสุนัขกลับมาในพื้นที่จะมีแนวทางอย่างไร นายก อบต. กล่าวว่า อบต. จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบให้บ่อยครั้ง เนื่องจากทางเจ้าของสุนัขมักจะซ่อนไม่ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบต.เข้าตรวจ หากพบว่ายังมีสุนัขที่ก่อเหตุอยู่ในบ้านหรือในพื้นที่ ก็จะยึดเอาระเบียบแรกตามคำสั่งห้าม โดยให้เจ้าของสุนัขนำออกนอกพื้นที่ก่อนทุกครั้งที่พบ ขณะที่หลายฝ่ายจะร่วมกันวางกรอบมาตราการบังคับใช้ทางกฎหมาย
/////////////สุรยุทธ ยงชัยยุทธ 081- 4366247