กาญจนบุรี – หมอเณร หมอสมุนไพรชื่อดัง มอบผู้ป่วยเบาหวานรักษาหาย ยื่นหนังสือที่กระทรวง สธ.กระตุ้น รมว.เห็นความสำคัญสมุนไพรไทย

วันนี้ 30 ม.ค68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร อายุ 66 ปี หมอยาสมุนไพรชื่อดัง เลขที่ 36 หมู่ 10 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ตนได้เดินทางไปที่กระทรวงสาธารณะสุข เพื่อยื่นหนังสือให้กับ นายสมศักดิ์ เทพสทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เห็นความสำคัญของสมุนไพรไทย เพราะผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจเบาหวานแผลเน่า โควิด ยาสมุนไพรไทย สามารถรักษาให้หายได้ และปลอดภัยกว่าการใช้วัคซีน ที่สำคัญไม่ต้องตัดขาผ่าหัวใจถือเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับหลักฐานที่มอบให้ประกอบด้วย flash drive ข้อมูลสำคัญเป็นวีดีโอ และประวัติผู้ป่วยที่รักษาหายด้วยยาสมุนไพรไทยและหลักฐานสำคัญอื่นๆ เวลาผ่านไปแล้ว 90 วัน ยังไม่มีการตอบรับจากกระทรวงสาธารณสุขแต่อย่างใดเลย

ดังนั้นวันนี้ ตนจึงให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่รักษาหาย เป็นตัวแทนเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อทวงถามคืบคืบหน้าจากนายสมศักดิ์ เทพสทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่กระกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี อีกครั้งหนึ่ง ล่าสุดได้รับการประสานมาว่าได้ยื่นหนังสือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เนื้อหาหนังสือที่นำไปยื่นให้กับนายสมศักดิ์ เทพสทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ตามที่ได้ทำหนังสือขอให้ท่านสนับสนุนและส่งเสริมยาสมุนไพรไทยการแพทย์ 1,000 ปี บรมครูตรัสรู้สร้างขึ้นด้วยญาณ ว่าค้นพบยาสมุนไพรไทยสร้างไฟธาตุ ได้เป็นยาตัวเดียวในโลกที่ยังไม่มีวงการแพทย์ค้นพบ ไม่ต้องตัดขา ผ่าหัวใจ ผู้คนไม่ต้องพิกลพิการ ตามรายละเอียดผลการวิจัยที่ส่งมาแล้วนั้น

จนบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆกว่า 90 วัน แล้ว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560มาตรา 55 บัญญัติไว้ว่ารัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณะสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคและส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสด บริการสาธารณสุขตามวรรคหนึ่ง ต้องครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพการควบคุมและป้องกันโรคการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพด้วยและต้องพัฒนาการบริการสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐธรรมนูแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 43 บัญญัติไว้ว่าบุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิ์ ดังนี้

1. อนุรักษ์ฟื้นฟูหรือส่งเสริมภูมิปัญญาศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมและจารีดประเพณีอันดีงามทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ
2. จัดการบำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนตามวิถีการที่กฎหมายบัญญัติ
3. เข้าชื่อกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการได้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือชุมชน หรืองดเว้นการดำเนินการใดๆอันจะกระทบต่อความเป็นอยู่อย่างสงบสุขของประชาชนหรือชุมชนและได้รับผลการพิจารณาโดยรวดเร็วทั้งนี้หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาข้อเสนอแนะนั้นโดยประชาชนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วนร่วมในการพิจารณาด้วยตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ
4. จัดให้มีระบบสวัสดิการของชุมชนสิทธิของบุคคลและชุมชนตามวรรคหนึ่งหมายความรวมถึงสิทธิที่จะร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นหรือรัฐ การดำเนินการดังกล่าวด้วยจึงกราบเรียนมาขอให้ท่านช่วยส่งเสริมสนับสนุนตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ด้วย และต้องขอกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างมากที่เห็นความสำคัญในเรื่องนี้โดยให้งบประมาณสนับสนุน 500 ล้านบาท ให้กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)กระทรวงสาธารณสุข หันมาใช้ยาสมุนไพรไทยมากขึ้นท่านทำถูกต้องแล้วเพราะจะประหยัดงบประมาณ แล้วผู้คนยังไม่ต้องพิกลพิการทรมานจนตายชีวิตคนถือเป็นเรื่องสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

หนังสือระบุอีกว่า แต่เรื่องที่ส่งมาถึงท่านยังเงียบอยู่จึงขอให้ท่านดำเนินการเร่งด่วนเราไม่ต้องการมาขัดแย้งกับใครเพียงแต่ต้องการให้ส่งเสริมและสนับสนุนยาสมุนไพรไทยที่ดีกว่าย่าแผนปัจจุบันเพราะยาแผนปัจจุบันทำไม่ได้เราต้องดำเนินการไปข้างหน้าตามกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้เพื่ออนุรักษ์พัฒนาการแพทย์สมุนไพร่ไทยที่สร้างขึ้นด้วยยานเหนือการส่องกล้องวิจัย

ไฟธาตุคือภูมิคุ้มกันตัวจริงป้องกันโรคระบาดติดต่อโรคโควิดได้ดีและปลอดภัยถือเป็นการค้นพบเรื่องสำคัญมากที่ยังไม่มีวงการแพทย์รู้จักเรื่องนี้กันเลย ทุกคนต้องมีไฟธาตุคือคนเป็นตัวจะอุ่น คนตายตัวจะเย็นเพราะไฟธาตุดับ การส่องกล้องไม่เจอวิจัยในหลอดแก้วไม่มีเชื้อไฟจึงไม่พบ พระพุทธเจ้า พระฤษี มองเห็นด้วยญาณเป็นของดีคู่แผ่นดินมีค่าควรเมืองรักษาได้ทุกโรค มีศาสตร์การตรวจวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำเหมือนกัน แต่เป็นคนละอย่างกันกับแผนปัจจุบันแต่ก็สามารถรักษาโรคให้หายได้เหมือนกันอาจจะเรียกคนละอย่างชื่อโรคแต่เขามีวิธีรักษาของเขา

กราบเรียนด้วยความเคารพทุกฝ่ายเราจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปถ้าช้ามากเกินจะตั้งทนายยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนพระราชบัญญัติไปประกอบโรคศีลปะ แพทย์พื้นบ้านการช่วยเหลือหรือเยียวยาผู้ป่วยตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือธรรมจรรยา โดยไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนคือยาสมุนไพรขายไม่ได้ผิดกฎหมายขัดต่อรัฐธธรรมญแล้วยังปิดกั้นภูมิปัญญาในชาติให้ล้มหายตายจาก จนของดีการแพทย์สมไพรไทยโบราณที่บรรพบุรุษ สร้างสรรค์ไว้เป็นของคู่บ้านคู่เมืองมาตลอด

และต้นไม้พืชสมุนไพรไทยได้รับความหายนะจนของดีหมดแผ่นดินเพื่อเป็นสืบสานต่อจนถึงลูกหลานต้องยึดรัฐธรรมนูญการแพทย์แผนไทยจะได้อยู่สืบต่อไปจนถึงลูกหลานต้องส่งเสริมผู้รู้เท่านั้นจึงจะมียาดีๆเกิดขึ้นเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติและประเทศชาติโดยแท้จริง กฎหมายใดที่ขัดรัฐธรรมนูญ ให้ยุบไปแล้วใช้ยึดตามรัฐธรรมนูญข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากพวกท่านโดยเร็ว

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์