
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ แพมาลัย” บ้านโบอ่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ “ตาปี๊ด” เปิดเผยว่า ทุเรียนหมอนทองลอยน้ำ ปีนี้สามารถติดดอกและติดผลหลายลูกเกือบ 12 ลูก แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกกระหน่ำหลายรอบ ทำให้ผลร่วงหล่นไปมาก จนเหลือเพียง 2 ลูกเท่านั้น
ผลทุเรียนทั้งสองมี “ทรงสวย” และขนาดคาดว่าจะมีน้ำหนักมากกว่า 3 กิโลกรัมต่อลูก โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถตัดผลผลิตได้ในช่วงประมาณวันที่ 25 มิถุนายน 2568 หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ในช่วงนี้วันเดียวกันนั้น บริเวณแพมาลัยมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อระดับน้ำและบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ปลูก
สำหรับการปลูกทุเรียนลอยน้ำของตาปี๊ด ซึ่งเริ่มต้นทดลองตั้งแต่ปี 2567 ยังคงได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐและเกษตรกรทั่วประเทศ ในฐานะต้นแบบการเกษตรเชิงนวัตกรรมที่นำทรัพยากรน้ำมาสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย
โดยต้นทุเรียนต้นนี้คุณตาปลูกอยู่บนบวบไม้ไผ่ผุๆ ซึ่งในแพยังได้ปลูกผลไม้อย่างอื่น เช่น ต้นมะม่วง และต้นโพธิ์ต้นไทร ที่เกิดขึ้นเองก็เจริญเติบโตอยู่บนแพลอยน้ำที่มีความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งตอนแรกตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ในระยะ 2-3 ปีมานี้ เห็นต้นทุเรียนเริ่มมีดอกแต่ก็ไม่เคยมีลูก ประกอบกับช่วงนั้นตนมีความสนใจในการทำทุเรียนอย่างจริงจัง จึงได้ไปนั่งดูปัญหา และพบว่าที่ไม่ติดลูก เพราะรากของต้นทุเรียนแช่น้ำมากเกินไป จึงจ้างคนตัดไม้ไผ่มาหนุนใต้แพ ดันโคนต้นทุเรียนสูงจากผิวน้ำมาเกือบเมตร แล้วเอาดินมาเพิ่มรอบๆ โคนต้น ปรากฏว่าได้ผล ปี 67 ต้นทุเรียนเริ่มติดลูกเล็กๆ แล้วก็ติดหลายลูก แต่ก็ค่อยๆ หลุดร่วงไป จนเหลือเพียง 3 ลูกตามที่เป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งนับจากวันที่ดอกบานจนถึงแก่จัดตัดได้อายุ 130 วัน
โดยลูกแรก ลุงปี๊ดได้ตัดและมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อได้ชิมรสชาติ ส่วนลูกที่ 2 นายอำเภอทองผาภูมิ ตัดแล้วมอบให้เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี นำมาทดสอบรสชาดความหวาน เพื่อเป็นข้อมูลทางวิชาการในการพัฒนาต่อยอดคุณภาพทุเรียนลอยน้ำไป โดยในครั้งนี้ ลุงปี๊ดแจ้งว่าผลิตทุเรียนลอยน้ำ ปีนี้ติดลูกกว่า 10 ลูก จะสามารถตัดได้ปลายเดือนมิถุนายน 68 นี้./
///////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post