ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินหน้าประสานงานสำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม ภาคเอกชน เปิดโครงการ
“ขนส่งปลอดภัย” Truck Safety เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้รถบรรทุกติดป้ายสะท้อนแสงที่ได้มาตรฐานสามารถ ใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุในช่วงกลางคืน หลังจากตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสูง จึงคิดแนวทางในการสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการ รณรงค์ประชาสัมพันธ์มากกว่าการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สังคมตระหนักรู้และตื่นตัวในเรื่องดังกล่าว
วันที่ 22 ตุลาคม 68 สถานีขนส่งพุทธมณฑลสาย 5 อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พลตำรวจโทพิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการขนส่งปลอดภัย Truck Safety โดยมีพลตำรวจตรีประสพชัย มัตสยะวณิชกูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พลตำรวจตรีพิทักษ์ อุปพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามพราน จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับป้ายสะท้อนแสง ผู้ประกอบการรถบรรทุกส่วนขนส่ง พนักงานขับรถขนส่ง เข้าร่วมในโครงการดังกล่าว
โดยการเปิดโครงการดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีการนำสาธิตในการใช้เครื่องมือสำหรับตรวจวัดค่าของแผ่นสะท้อนแสงที่ติดอยู่บนรถบรรทุกให้สื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมโครงการได้เห็นถึงคุณภาพและค่ามาตรฐานของกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ โดยจะแสดงให้เห็นว่าแผ่นป้ายสะท้อนแสงที่ได้รับมาตรฐานและในส่วนที่เป็นของปลอมจะมีค่าการสะท้อนแสงแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งจะมีค่าตัวชี้วัดให้ เห็นได้อย่างชัดเจนซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความปลอดภัย สำหรับการใช้รถใช้โฉนดโดยมีเจ้าหน้าที่ของภาคเอกชนได้ให้ความรู้ประกอบกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งอำเภอสามพราน ก็ได้เข้าร่วมในการทดสอบระบบดังกล่าว โดยพบว่าค่า อุปกรณ์สะท้อนแสงบางยี่ห้อมีคุณภาพต่ำกว่ามากนับเท่าตัว และไม่สามารถมองได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
สำหรับโครงการขนส่งปลอดภัย ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการเลื่อนนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหลัก “1 ยึดมั่น 6 เร่งรัด9 ก้าวหน้า” โดยหนึ่งนโยบายสำคัญคือการกวดขัน เสริมสร้างวินัยจราจร และการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการนี้ได้ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในยามค่ำคืนและปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน ซึ่งมีประกาศ ของกรม ขนส่งทางบกเรื่องกำหนดคุณลักษณะ สี ขนาด จำนวนและการติดตั้งรวมทั้งประเภทของรถบรรทุกต้องมีอุปกรณ์หรือแผ่นสะท้อนแสง ปีพ.ศ. 2566 ได้วางมาตรฐานเพื่อให้รถบรรทุกและยานพาหนะต้องปฏิบัติตามและมีการติดตั้งแผ่นหรืออุปกรณ์สะท้อนแผงวงที่ชัดเจนให้เห็นได้ตลอดในเวลากลางคืนในสภาพทัศนวิสัยต่ำเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุอย่างเป็นธรรม
พลตำรวจตรีพิทักษ์ อุปพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กล่าวว่ามีการเปิดโครงการดังกล่าวได้ใช้สถานที่สถานีขนส่งพุทธมณฑลสาย 5 เป็นจุดเริ่มต้นเนื่องจากมีรถบรรทุกและรถขนส่งต้องเข้ามาอยู่ในจุด ดังกล่าวหลายราย ทำให้การรณรงค์เป็นไปอย่างมีค่าและนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยจะได้เริ่มมีการขับเคลื่อนการติดป้ายสะท้อนแสงให้ชัดเจน เนื่องจากมีตัวเลขอุบัติเหตุยามค่ำคืนจากการที่ไม่มีป้ายสะท้อนแสงติดให้เห็นเด่นชัดของรถบรรทุก ยังพบว่าในการตรวจสอบสภาพรถบรรทุกต้องมีการติดสติกเกอร์แต่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อมีการนำเครื่องมือมาใช้จึงพบว่าไม่ได้ค่ามาตรฐานและไม่สามารถแสดงผลให้เห็นเด่นชัดได้อย่างเต็มที่ในยามค่ำคืนทำให้ตัวเลขสถิติ เกี่ยวกับอุบัติเหตุไม่ลดลงซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่จังหวัดนครปฐมจะเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างชัดเจนซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่ได้สนับสนุนแถบสะท้อนแสงและอาจจะมีการขอยืมเครื่องมือในการทดสอบในจุดดังกล่าวแต่ยืนยันว่าจุดนี้จะไม่ได้มีการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นช่องทางสำหรับเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างไรแต่จะเน้นมุ่งการรณรง เป็นหลักก่อน
พลตำรวจโทพิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า มีการเปิดโครงการดังกล่าวตำรวจภูธรภาค 7 ขับเคลื่อนตามนโยบายของภาครัฐซึ่งในการตรวจสภาพของรถจากสำนักงานขนส่งก็จะมีมาตรฐานในการตรวจเช็คสภาพการติดตั้งสะท้อนแสงและอุปกรณ์ต่างๆเป็นหนึ่งในนั้นอยู่แล้วซึ่งการเปิดโครงการครั้งนี้จะมุ่งเน้นในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจและความรู้ก่อนโดยยังไม่ได้มุ่งเน้นในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังแต่เป็นการกระตุ้นเตือนให้ตระหนักรู้และช่วยกันป้องกันอุบัติเหตุซึ่งจะเกิดขึ้น โดยที่ที่ผ่านมาตัวเลขสูติของการอุบัติเหตุจากภาพตอนกลางคืนก็มีไม่น้อย ซึ่งตอนนี้เราจะมุ่งเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนและเชื่อว่าการตรวจสภาพของป้ายสะท้อนแสงอาจจะขับเคลื่อนให้ทันกับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าซึ่งก็จะทำภาพปรากฏให้ชัดเจน
ทั้งนี้ผู้สื่อรายงานว่าผู้ประกอบการเอกชน ได้มีการนำแผ่นสะท้อนแสงที่ไม่ได้มาตรฐานมาเทียบเคียงกับแผ่นป้ายสะท้อนแสงที่ได้รับมาตรฐานถูกต้องพบว่ามีค่ามาตรฐานที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางส่วนก็ยังไม่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องทางด้านเทคนิคและคุณสมบัติของป้ายสะท้อนแสงซึ่งลงด้วยตาเปล่าแล้วอาจจะไม่ทราบว่าเป็นของแท้หรือของปลอม จึงจำเป็นจะต้องมีการใช้เครื่องมือซึ่งจากการทดสอบพบว่าแผ่นป้ายสะท้อนแสงที่ไม่ได้มาตรฐานมีค่าวัดได้แค่ระดับ 14 แต่ต่างจากมาตรฐานที่จะต้องมีค่าตัวเลขอยู่ที่ระดับ 240 กว่าขึ้นไป ซึ่งตรงนี้เป็นการเริ่มต้นโมเดลของการใช้เครื่องมือยิงทดสอบค่าที่ได้มาตรฐาน ตามที่กฎหมายกำหนดกำหนดได้ ซึ่งตรงนี้ หน่วยงานราชการได้คุยหารือกันพบข้อมูลว่าการติดตั้งแผ่นป้ายสะท้อนแสงที่ได้รับมาตรฐานต่อรถหนึ่งคันจะประมาณ 1000 บาท แต่หากถูกตรวจสอบพบว่ามีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่มาตรฐาน จะมีครบปรับศูนย์ถึง 50,000 บาท จึงจำเป็นต้องเริ่มต้นรณรงค์ในการชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่าและตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้งซึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่จะมีการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป
