
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญสื่อมวลชนในพื้นที่ดื่มกาแฟ เพื่อพูดคุยถึงการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี หลายเรื่องโดยเฉพาะบางแห่งอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานฯ และเขตป่าไม้ ฯลฯ. กำลังจะมีการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพูดคุยกับหน่วยงานนี้อยู่ มีอยู่ประเด็นน่าจะพัฒนาท้องถิ่นไม่ต่างกับในประเทศที่เคยไปท่องเที่ยวมา สร้างรายได้ให้ประเทศได้มากหากทำเสร็จสิ้นในอนาคต มี 2 เรื่องประกอบด้วย
1.แลนด์มาร์คสวรรค์ตะวันตก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ บ้านอีต่อง ซึ่งมีพื้นที่อดีตเป็นเหมืองเก่า มีพื้นที่อยู่กว่า 2 หมื่นไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานเขาแหลม บ้านอีต่อง จุดเด่นเป็นพื้นที่ 3 ฤดู มีสภาพอากาศไม่แพ้ในต่างประเทศตลอดทั้งปี หากพื้นที่มีการทำโครงการพัฒนาให้เต็มรูปแบบยั่งยืน อนาคตก็จะดึงดูดการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว ได้เพิ่มมากกว่าที่เป็นอยู่ สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่นตามมามากมาย บ้านอีต่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี แห่งนี้ที่พักจะมีไม่เพียงพอแก่ผู้ไปใช้บริการ เพราะสภาพอากาศที่นี่ทำให้นักท่องเที่ยวกลับไปเยือนกันไม่ขาด
จังหวัดกาญจนบุรี สมบูรณ์มากมายมีทั้ง น้ำตก ถ้ำ แหล่งประวัติศาสตร์สะพานข้ามแม่น้ำแคว รวมศิลปวัฒนธรรมโบราณ หลากหลาย แต่สถานที่รับบริการให้กับคนมาเที่ยวแล้วไม่ได้พัก ไม่ได้มีโรงแรมห้าดาวซึ่งอยู่ใกล้ธรรมชาติ เพราะมาก็กลับ หรือพักในอุทยาน ที่พักมันก็ไม่ดี แต่ถ้าเราหาพื้นที่สักแห่งหนึ่ง อย่างเช่นแถวอีต่อง อากาศมันดีทั้งปี ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนอดีตทำเหมืองแร่ใช่ วันนี้เป็นเขาหัวโล้นหมด พื้นที่ตรงนั้นมันก็ไม่มีโอกาสที่จะฟื้นกลับมาเป็นป่า มันก็จะเป็นที่ที่มีต้นหญ้าต้นอ่อนขึ้นอยู่อย่างนี้ตลอด เหตุเกิดที่ว่าไม้ใหญ่ไม่ขึ้นเพราะลมมันแรงแล้วมันสูง ต้นไม้มันขึ้นได้ไม่กี่ชนิด พอเวลาหน้าแล้งมันก็มีโอกาสเกิดไฟ ที่ตรงนี้มันอยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นแลนด์มาร์คได้เลย เราจะบอกให้ว่าจุดตรงนี้ หนึ่งมันใกล้กรุงเทพกว่าเดินทางโดยรถยนต์ มีถนนมอเตอร์เวย์ M 81 สามารถเชื่อมกับหลายเส้นทางสะดวกใช้เวลาได้รวดเร็วกว่าเดิม บ้านอีต่องอากาศก็ดี เรามองเห็นทะเลอันดามัน ด้วยพื้นที่มันสูง สภาพอากาศมี 3 ฤดูมีอยูที่นี่ผู้ไปเยือนแล้วต้องกลับมาเยือนอีก
2.จุดป่าสลักพระน่าจะปรับให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวชมช้างป่า ซึ่งช้างป่าสลักพระ อีกจุดหนึ่งที่ผมเห็นแล้วก็อยากทำ เราไปต่างประเทศ เราจะเห็นคนไปส่องสัตว์ไปดูสัตว์ ดูแสตมป์ อย่างเช่นไปนิวซีแลนด์ ไปดูนกแพนกวิน เราไปซื้อตั๋วคนละ 3,000-4,000 ไปนั่งดูบนอัศจรรย์ พอตอนเย็นนกแพนกวินมันก็กลับมา เราก็ไปดูมันและถ่ายรูป ต้องเสียเงินนั่งเครื่องบินไป หมดเลยคนละสองสามแสน ผมไปที่นิวซีแลนด์ไปสวิตช์ที่ซูริก เขาเอาช้างจากแก่งกระจานไปประมาณ 8 ตัว ฝรั่งไปดูช้างกันเต็มหมดเลย ไปทั้งครอบครัวเอาอาหารไปกินไปนั่งดูช้าง ช้างมีอยู่หกเจ็ดตัว ผมไม่เคยเห็นช้างที่ไหนอ้วนที่สุดตั้งแต่ผมเกิดมาอ้วนมากอ้วนยิ่งกว่าหมูอีก เพราะเขามีช้างไม่กี่ตัวเขาเลี้ยงอย่างดี แล้วก็ปรับอุณหภูมิ ให้มันมันร้อน ให้ช้างอยู่ได้
แต่บ้านเราเอาเงินงบประมาณแผ่นดินสร้างรั้วกั้นช้าง ดูแล้วผมว่าหลายพันล้านอาจจะถึงหมื่นล้าน ดูตั้งแต่จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี กาญจนบุรี หรือขึ้นไปทางภาคเหนือ แถวจังหวัดนครสวรรค์ มีที่ไหนสร้างรั้วกั้นช้างแล้วประสบผลสำเร็จ สร้างแล้วช้างไม่ออกมา ไม่มีเลย เพราะฉะนั้นเงินที่ทำลงไปกับกับผลลัพธ์ ที่ได้มา เป็นศูนย์ ไม่มีประโยชน์เลย จะตรวจสอบหรือว่าจะไม่ได้ตรวจสอบแต่ผมคิดเลยว่าต้องเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนแนวคิดว่าทำอย่างไร ให้ช้างไม่ออกมา ที่ช้างออกมา เพราะว่าช้างหิว ถ้าอิ่มช้างก็ไม่ออกมา ไม่รบกวนพืชไร่ประชาชน แต่ถ้าไปสร้างรั้วกั้นช้าง ผมบอกเลยผมไม่เคยเห็นด้วยเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น แล้วเราก็มาดูมัน ทำอัศจรรย์ผมเชื่อว่า ถ้าผมมีโอกาสผมจะทำเรื่องนี้กับเรื่องที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
สุดท้ายเรื่องการเมืองไม่ต้องถามหรอก พรรคภูมิใจไทยอยากได้ 5 คน จัดคนพร้อมอาทิตย์หน้าจบ เราไม่ดูดไม่ดื่ม เพราะว่ามีทั้งตัวจริงตัวสำรอง ตัวจริงพรรค ถ้าตัวจริงไม่ลง ก็สำรองลง ทุกเขตพร้อม มีอดีต สส.ปัจจุบัน สนใจอยู่ไม่ได้ติดต่อใคร เรามีสำรองอยู่ ผมก็สำรองวันนี้ยังหาเขตลงไม่ได้ ผมพร้อมลงทุกเขต แต่ผมสนใจลงเขต 5 เพราะผมทำงานที่นั่นรู้จักพื้นที่ดี พร้อมลง…….เสียงนายศักดิ์ดา กล่าวทิ้งท้าย……….
///////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์




































