ช็อคแต่เช้า หญิงยืนซื้ออาหารเจ ตลาดซอย 2 ช่วงกำลังหันหลังจะพลิกตัวเดินออกถูกรถกระบะบรรทุกรถแบคโฮ เกี่ยวตัวล้มล้อหลังทับกลางล่าง นอนดับกลางเมือง คาดเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัว ทำคนกำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้า สุดช็อค ด้านคนขับบอกระหว่างด้านหน้าเนื่องจากรถยาวแต่เมื่อได้ยินเสียงคนกรีดร้องรีบเหยียบเบรกแต่ไม่ทันลงมาดูล้อหลังทับล่างหญิงคนดังกล่าวไปแล้ว
วันที่ 27 ตุลาคม 68 เวลา 08.53 น. พ.ต.ท.กฤตชัย อาชวสกุล พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีรถทับคนเสียชีวิตที่บริเวณถนน 25 มกรา ซอย 5 / 1 เขตเทศบาลนครนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงหลุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพล.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ ดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาสมัคร มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านพระจันทร์เภสัช หรือบริเวณดังกล่าวชาวบ้านจะเรียกการติดปากว่าตลาดนัดซอย 2 เจ้าหน้าที่พบร่างของนางสาวอาริสา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่ใต้ท้องพ่วงขนาดเล็ก ซึ่งบรรทุกรถแบล็คโฮขนาดขนาดเล็กอยู่ด้านบน ที่ด้านหน้ามีรถลากเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าไมตี้ สีน้ำเงิน ทะเบียน บท ครปฐม จอดหน้านิ่งอยู่ มีนายนิกร เป็นคนขับและยืนรอพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่ามกลางความตื่นตกใจของลูกค้าและแม่ค้าที่กำลังจับจ่ายซื้อของที่ตลาดนัดดังกล่าว ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าร้านที่กำลังประกอบอาหารและจัดจำหน่ายอาหารช่วงเทศกาลกินเจ
ประมาณเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าในช่วงที่เกิดเหตุนางสาวอาริสา กำลังเดินซื้อและเลือกอาหารเจเพื่อที่จะนำไปรับประทานที่ทำงาน โดยได้หันหลังและกำลังเลือกสินค้าคาดว่าช่วงที่ได้ซื้ออาหารเสร็จแล้วกำลังพลิกตัวหมุนเพื่อจะเดินออกจากร้านเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ รถกระบะบรรทุกพ่วงหลังมาได้วิ่งผ่านมาและได้เกี่ยวช่วงบริเวณหลังล้มลงก่อนที่จะถูกล้อหลังที่มันบรรทุกรถแบคโฮ เกี่ยวหลังแล้วล้มลงก่อนจะถูกล้อหลังทับเข้ากลางล่างพอดี ซึ่งช่วงจังหวะดังกล่าวได้มีประชาชนและแม่ค้าที่กำลังค้าขายอยู่ดังกล่าวได้ ได้ส่งเสียงและตะโกนร้องคนขับจึงได้แตะเบรคทันทีและรีบวิ่งลงมาดูเพราะว่าล้อหลังทับล่างของผู้ตาย ก่อนจะประสานเรียกรถให้มาทำการยกร่างของหญิงโชคร้ายรายนี้ เมื่อมาถึงก็พบว่าได้เสียชีวิตทันทีในที่เกิด เป็นเหตุการณ์ที่ตกตะลึงของชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าบริเวณดังกล่าว
โดยนายทินกร คนขับรถดังกล่าวบอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถกระบะบรรทุกรถพ่วง โดยมีรถแม็คโครบรรทุกมาด้วยเพื่อที่จะเข้าไปทำงานที่บริเวณโรงเจ ซึ่งอยู่ที่ถนนเทศา ซอย 1 ห่างไปไม่ไกลแต่พบว่าคนเยอะแล้วรถเข้าไม่ได้จึงได้วนรถออกมาถึงบริเวณถนนเทศา ซอย 2 โดยช่วงที่มาถึงก็เห็นมีคนเยอะอยู่จึงได้ชะลอรถและค่อยค่อยประคองโดยมองข้างหน้าเป็นหลักเนื่องจากระวังจะไปเกี่ยวคนโดยที่ไม่ได้เห็นว่ามีคนเดินใกล้เข้ามารถที่ด้าน แต่จากนั้นได้ยินเสียงดังกรึบ และมีเสียงคนร้องสนั่นจึงรีบเบรก และรีบลงมาดูพบว่าล้อหลังฝั่งขวาได้ทับล่างของหญิงโชคร้ายอยู่จึงได้ประสานให้มีการเอารถมายกล้อเพื่อที่จะเอาลากออก แต่พบว่าได้เสียชีวิตไปแล้ว และก็รอพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า จุดดังกล่าวเป็นสถานที่ที่ประชาชนจะนิยมมาจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากในช่วงเช้าซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลถือศีลกินเจจึงได้มีร้านค้ามาประกอบอาหารและจำหน่ายบริเวณดังกล่าวทำให้ผู้คนยิ่ง มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นว่าช่วงที่รถดังกล่าวได้เคลื่อนตัวผ่านมาบริเวณหน้าร้านอาหารเจผู้ตายคาดว่าน่าจะซื้อของเสร็จและหมุนตัวเดินออกเป็นจังหวะที่รถเคลื่อนตัวมาพอดีแต่ไม่คาดคิดว่าจะใกล้กับตัวระยะประชิดเนื่องจากร้านดังกล่าวได้เปิดตั้งอยู่บนผิวการจราจรทำให้เป็นช่วงจังหวะที่ถนนแคบ และผู้ตายไม่คาดคิดว่าจะมีรถใหญ่วิ่งมาถึงจุดดังกล่าวเป็นจังหวะที่มาพบกันพอดี ขณะที่คนขับก็ไม่ชำนาญเส้นทางจึงได้เคลื่อนตัวมาในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน เบื้องต้นเจ้าหนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานโดยจะได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไว้ก่อน ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำและเชิญญาติของผู้เสียชีวิตเข้ามาพบกันครั้งหนึ่ง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันของชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าและทราบข่าวเนื่องจากจุดดังกล่าวไม่น่าที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ไม่สามารถมีการใช้ความเร็วบนท้องถนนได้และจะมีจำนวนของผู้เข้าจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากดังกล่าวจึงถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับหน่วยงานได้มาตรวจสอบและมาอำนวยความสะดวกรวมถึงต้องให้ความ รู้และติดป้ายเตือนเรื่องความเร็วและการจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลนี้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเป็นเหตุ ที่น่าสลดได้อีก
ภาพ/ข่าว กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม
