จังหวัดแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นอีก 1 จังหวัด ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จพระราชดำเนินทรงงานและมีอีกหลากหลายโครงการที่พระราชทานให้พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร รวมถึงมีความทรงจำที่ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีต่อพระแม่ของแผ่นดิน หนึ่งในนั้นยังพบว่ามีคุณป้าท่านหนึ่งที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิดและยังได้รับพระราชทานสิ่งของเป็นความประทับใจที่ยังคงเก็บรักษามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
จากการเปิดเผยของ นางสาวเสาวนีย์ วรรณศิริ อายุ 82 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 24 ถนนสิงหนาทบำรุง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ตอนแรกที่ทราบข่าวการสวรรคตของพระพันปีหลวงก็ตกใจมาก เสียใจ แต่ตนเองต้องไปงานที่วัด หลังจากกลับมาก็ตระเวนไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแม่ฮ่องสอน ช่วยดลบันดานให้พระองค์ทรงสู่สวรรคาลัย และมีสิ่งหนึ่งที่ตนเองคือผู้ที่ได้รับพระราชทานพระกลด (ร่ม) จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งที่ทรงเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อราวปี 2506 หรือ 2507 จำไม่ได้แน่นอน ซึ่งคุณป้าเสาวนีย์เองในขณะนั้นมีอายุเพียง 16-17 ปี ก็ไปเฝ้ารอรับเสด็จพร้อมกับทางครอบครัวด้วย ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กำลังสอบถามกับผู้ที่เข้าเฝ้า หลังจากที่ทรงงานในพื้นที่อื่นๆ เรียบร้อยแล้วและกำลังจะเสด็จพระราชดำเนินกลับ ต่อมาพระพันปีหลวงได้หันมาสอบถามกับตนเองว่าที่นี่พูดภาษาอะไร ตนเองจึงตอบไปว่าพูดภาษาไทยใหญ่เพคะ และยังสอบถามต่ออีกว่าหากต้องการให้พูดคำว่า “วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสดี” จะพูดภาษาไทยใหญ่ว่าอย่างไร ตนจึงตอบไปว่า “เมื่อไน่ผ้าป่างผ้าใสดีหน๋อ” ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็หันมาพอดีก็ถามว่าคุยอะไรกันเหรอ และบอกว่าที่พูดก็ก็พอเดาได้นะ พระพันปีหลวงยังสอบถามอีกว่าตนเป็นคนที่นี่อยู่ที่นี่เลยเหรอทำไมพูดชัดเจนมาก ก็ตอบกลับไปว่าเกิดที่นี่ตั้งแต่กำเนิดเลย ส่วนที่พูดได้คล่องก็เพราะขยันหาหนังสือมาอ่านเป็นคนชอบอ่านหนังสือด้วยพระพุทธเจ้าค่ะ ต่อมาพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินกลับก็ยังหันมาบอกอีกว่าเรากลับละนะ ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกล้าพูดขอพระกลดจากพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ยิ้มตอบ ในขณะที่คนอื่นๆ ที่ร่วมส่งเสด็จนั้นต่างตกใจนั่งนิ่งกันเพราะไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าขอพระราชทานสิ่งของจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน แต่หลังจากทั้ง 2 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับไปแล้วก็มีผู้ติดตามที่จำได้แม่นคือท่านขวัญแก้ว วัชโรทัย เดินทางมาหาที่บ้านและมอบพระกลดที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงใช้เป็นการส่วนพระองค์ประจำให้ สร้างความปลื้มปิติต่อตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก ตอนแรกยังไม่รู้ว่าจะเก็บอย่างไรก็นำขึ้นไปไว้ที่บนหิ้งพระ ก่อนที่จะนำผ้าแพรสีทองมาห่ออีกครั้งในภายหลัง ตนไปทำงานที่ไหนก็จะนำติดตัวไปด้วยตลอดเวลา จะนำออกมาก็เพียงกรณีพิเศษหรือประเพณีสำคัญๆ หากจะนำมาเปิดครั้งใดก็จะรู้สึกขนลุกทุกครั้งไป เพราะเก็บรักษามาถึง 63 ปีแล้ว จากนี้ไปก็จะพยายามดำรงตนเป็นคนดี ทำความดีถวายแด่พระองค์ท่านตลอดไป
ในส่วนของการเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์บ้านเก่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น คุณป้าเสาวนีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า เกิดขึ้นจากรูปทรงของบ้านตนเองหลังนี้เป็นบ้านไม้ล้วนและยังคงรูปทรงดั้งเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มีความพยายามจะอนุรักษ์ความเก่าแก่ไว้คู่เมืองแม่ฮ่องสอน ตอนนี้ก็อายุบ้านก็เกินกว่า 109 ปีแล้ว เป็นบ้านทรงปั้นหยาที่ก่อสร้างมาราวปี 2480 ที่คุณพ่อซื้อมาด้วยราคา 5 หมื่นบาทในสมัยโน้น หลังคาเป็นสังกะสีที่มีตรา Made In England ติดไว้อย่างชัดเจนและทุกวันนี้ก็ไม่มีรั่วซึม สมัยนั้นทราบว่าต้องสั่งซื้อและจนมาจากพม่า เพราะคุณพ่อเป็นร้านค้าขาย ที่ขายเกลือ ผ้าฝ้ายทอ ผ้าพื้นบ้านและยาสมุนไพร ซึ่งยาสมุนไพรตนเองก็สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ด้วย
/////////////////////////////////////
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน ☎️0895613777
