เมื่อวันที่ 4พ.ย.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายได้ลงพื้นที่พบ นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนนำสื่อขึ้นรถบิ๊กฟู้ดส์ล้อโต ตะลุยเข้าไปลงพื้นที่ในเขตน้ำท่วม เพื่อตรวจสอบบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างขวัญให้กำลังใจ รวมถึงจัดเตรียมสิ่งของเพื่อนำไปแจกจ่าย ซึ่งมวลน้ำในพื้นที่ได้ไหลมาจากอุทัยธานี ผ่านหนองปรือ ลงสู่บ้านหลุมรัง ก่อนจะไหลลงไปยังคลองลำตะเพิน ซึ่งทำให้พี่น้องหลุงรัง ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะทางการเกษตรพืชไร่นับหมื่นไร่จมใต้น้ำ ทำให้ราษฎรเดือดร้อนหนัก และทาง อบต.หลุมรัง ได้จัดเตรียมสิ่งของจำเป็น เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อนเร่งด่วน
ซึ่งก่อนหน้านายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นางสาววิสุดา วิเชียรศิลป์ นายอธิสรรร์ อินตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายเชาว์โรจน์ มากแก้ว นายอำเภอบ่อพลอย และคณะ ได้นำถุงยังชีพลงมอบให้ผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้บางส่วนแล้ว
และในพื้นที่ ณ เวลานี้พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทางมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สมาคมกู้ภัยบ่อพลอย กู้ภัยกาญจน์ ฯลฯ. ได้นำเรือพร้อมรถพยาบาลลงไปช่วยเหลือขนย้ายผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีตั่งแต่อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอบ่อพลอย โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหนองปรือบริเวณทางสายหลัก บริเวณทางแยกไฟแดงเข้าตัวอำเภอหนองปรือระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รถเล็กต้องสัญจรด้วยความยากลำบาก เนื่องจากน้ำสูงเกิน 60 เซนติเมตร และที่วัดหนองปรือทางวัดได้เตรียมจัดกิจกรรมเทศกาลลอยกระทง วันนี้ต้องยกเลิกเนื่องจากระดับน้ำเข้าท่วมภายในวัดไม่สามารถจัดกิจกรรมเทศกาลลอยกระทงได้ เนื่องจากมีระดับน้ำเกิน 1 เมตร ท่วมภายในบริเวณวัดหนองปรือ
ต่อมาในพื้นที่ตำบลหนองกุ่ม หมู่ที่ 2 นายชวโรจน์ มากแก้ว นายอำเภอบ่อพลอยได้รับแจ้งว่าในพื้นที่ระดับน้ำสูงเพิ่มมีประชาชนป่วยติดเตียง จึงได้พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อส. ใช้รถยนต์บิ๊กฟูด๊ส์ ขนาดรถยกสูงเกือบ 2 เมตร ลุยน้ำมิดล้อเข้าท่วมมิดไปถึงครึ่งคัน เพื่อเข้าไปยังบ้านดังกล่าว ก็พบว่ามีคุณตากับคุณยาย และหลานเล็กๆ อีก 2 คน คุณตากับคุณยาย แจ้งว่าน้ำเพิ่งมีระดับสูงในวันนี้ แต่ยังไม่ท่วมตัวบ้านเพราะปลูกอยู่สูงน้ำจึงไม่ท่วม ท่วมเพียงทางเข้าไประดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตรเท่านั้น
สำหรับน้ำที่ท่วมในพื้นที่ตำบลหลุมรัง นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง กล่าวว่าตำบลหลุมรัง เดือดร้อนจำนวน 18 หมู่บ้าน มีพื้อนที่ติดลำน้ำอยู่ 9 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาหลายวันแล้ว คาดว่าไม่น้อยกว่า 300 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมน่าจะมากกว่าหมื่นไร่ สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว ทางรัฐบาลก็ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วบางส่วน โดยการสร้างฝายกักเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 3 แห่ง เหนือพื้นที่ตำบลหลุมรัง ขึ้นไปน้ำทั้งหมดยังไม่เต็มทั้ง 3 แห่ง หากน่าแล้งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง
ส่วน นายชวโรจน์ มากแก้ว นายอำเภอบ่อพลอย กล่าวว่าเป็นวันที่ 5 แล้วอำเภอบ่อพลอยประสบปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพัน น้ำจากคลองลำตะเพิน ได้ไหลหลากเข้าท่วมในหลายหมู่บ้าน นายอำเภอบ่อพลอย พร้อมด้วย อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กิ่งกาชาดอำเภอบ่อพลอย องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุ่ม ได้เดินทางเข้ามายังบ้านหนองกระทุ่ม หมู่ที่ 2 โดยมาตรวจสอบช่วยเหลือ 2 ตายาย กับหลานเล็กๆ อีก 2 คน บ้านดังกล่าวถูกตัดขาดจากหมู่บ้านทั้งหมด เส้นทางเข้าบ้านรถธรรมดาจะเข้ามาไม่ได้ จะเข้าไปได้เฉพาะรถที่ยกสูงเท่านั้น คุณตาและคุณยาย เห็นนายอำเภอเข้าไปถึงบ้านรู้สึกดีใจมาก
นายชวโรจน์ กล่าวอีกว่า อำเภอบ่อพลอยมีพื้นที่โดนน้ำท่วมไปแล้วมีผู้ประสบภัยพิบัติถึง 6 ตำบล ประมาณ 30 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 400 ครัวเรือน มีกว่า 1 พันคน สาเหตุมาจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำเหนือจากจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอุทัยธานี ไหลมาสมทบกับอำเภอด่านช้าง อำเภอหนองปรือ รวมถึงมีสิ่งกรีดขวางทางไหลของน้ำ ทำให้น้ำไหลไปไม่สะดวกจึงเกิดน้ำท่วมหนัก
และทางกระทรวงมหาดไทย นำโดย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องมาตลอดก่อนหน้านี้ และวันที่ 6 พ.ย. นี้ ท่าจะจะลงพื้นที่อีกรอบเพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมทั้งอำเภอ ประมาณ 400 ครัวเรือน บริเวณหอประชุมอำเภอบ่อพลอย และหอประชุมตำบลหลุมรัง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าหน่วยงานเกี่ยวข้อง
/////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
