
ประจวบคีรีขันธ์ – ชาวบ้านตำบลเขาแดงและตำบลดอนยายหนู อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กว่าร้อยคน รวมตัวกันยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังพบว่าพื้นที่ทำกินที่ครอบครองกันมาหลายชั่วอายุคน ถูกประกาศทับซ้อนกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยชาวบ้านยืนยันว่าพวกตนอยู่ในพื้นที่มาก่อนการประกาศเขตอุทยานฯ เมื่อปี 2509 และต้องการให้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อคืนสิทธิ์ในที่ดินบรรพบุรุษกลับมาอย่างเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณใกล้หาดสามพระยา ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี กลุ่มชาวบ้านกว่า 100 คน นำโดยนายมานพ ตั้งบูรพาจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รวมตัวกันเพื่อทวงถามความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด นำโดยนายนันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร คณะทำงานชุดเฉพาะกิจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยชาวบ้านต่างแสดงจุดยืนตรงกันว่า พื้นที่ที่กำลังมีข้อพิพาทนั้นเป็นที่ทำกินของตนเองมาแต่เดิม ก่อนที่ภาครัฐจะประกาศเขตอุทยานฯ ครอบคลุมในภายหลัง
ชนวนเหตุของการปะทุขึ้นอีกครั้งครั้งนี้ มาจากกรณีที่มีการใช้รถแบ็คโฮขุดลอกร่องน้ำเพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตป่าชายเลนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรืออาจอยู่ในเขตอุทยานฯ แต่ทางฝ่ายชาวบ้านนำโดยนายมานพ ตั้งบูรพาจิตร์ ยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ของกรมใด และเป็นที่ทำกินที่ใช้สืบต่อกันมาหลายสิบปี โดยหลังจากการขุดลอกทำให้น้ำลดลง ปรากฏว่ามีหลักเขตอุทยานฯ โผล่ขึ้นมา ซึ่งนายชัยวัฒน์ระบุว่าเป็นหลักเขตที่ตนเคยปักไว้เองเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2525
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายชาวบ้านนำโดยนายวิทูรย์ รัศมี ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน ได้แย้งว่า มติคณะรัฐมนตรีปี 2525 นั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว และหากยึดตามมติเดิมปี 2509 จะไม่พบว่าพื้นที่ตรงนี้อยู่ในเขตอุทยานฯ อีกทั้งตามบัญชีแนบท้ายของมติปี 2525 เองก็ไม่ได้ระบุพื้นที่ดังกล่าวไว้ ทำให้ประเด็นเรื่องมติ ครม. กลายเป็นจุดถกเถียงสำคัญที่ยังหาข้อยุติไม่ได้
นายปิยะ เทศแย้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านทุ่งน้อย ตำบลเขาแดง เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ทำกินอยู่ในบริเวณนี้มานานก่อนที่รัฐจะประกาศเขตอุทยานฯ เมื่อปี 2509 โดยสมัยก่อนการจับจองที่ดินทำกันด้วยปากเปล่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เนื่องจากยังไม่มีระบบการจัดการที่ดินที่ชัดเจน จนต่อมาในปี 2525 มีการปักหลักเขตอุทยานฯ โดยไม่ได้มีการประชาพิจารณ์หรือแจ้งให้ชาวบ้านทราบอย่างเป็นทางการ ทำให้หลายคนมารู้ตัวภายหลังเมื่อถูกจับกุมในข้อหาบุกรุกที่หลวง ซึ่งนับจากนั้นมาชาวบ้านหลายรายต้องต่อสู้คดีเพื่อรักษาสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ทำกินมาทั้งชีวิต
นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า การลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรฯ ครั้งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับการที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีการนำรถแบ็คโฮเข้ามาขุดลอกร่องน้ำในพื้นที่ที่อาจอยู่ในเขตอุทยานฯ โดยไม่มีการห้ามปรามหรือรายงานจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ซึ่งอาจนำไปสู่การตั้งกรรมการสอบสวนหัวหน้าอุทยานฯ ขณะที่หัวหน้าอุทยานฯ ชี้แจงว่าเข้าใจว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเอกชน เนื่องจากชาวบ้านเคยนำเอกสารสิทธิ์มาให้ดู อีกทั้งเพิ่งเห็นหลักเขตโผล่ขึ้นมาหลังจากการขุดลอกน้ำเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวประเมินว่า เหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนตัวหัวหน้าอุทยานฯ หรือแม้แต่การฟ้องร้องกันในชั้นศาลระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความพยายามของชุมชนในพื้นที่กุยบุรี ที่ยังคงยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้บุกรุกป่า แต่เพียงต้องการปกป้องที่ดินของบรรพบุรุษที่อยู่มาก่อนกฎหมายจะเข้ามากำหนดเส้นแบ่งบนแผนที่
///////




































