วันนี้ 15 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจตรีพศวีร์ เรืองภู่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พันตำรวจเอกสธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ฯ พันตำรวจเอกสุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี สั่งการให้ พันตำรวจโทโชคชัย ไทยเจริญ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี พันตำรวจตรีเมธี บัวซ้อน สว.จราจรฯ และ ร้อยตำรวจเอกวิชาติ จันทร์ลิลา รอง สว.จราจรฯ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจร พร้อมตรวจค้นเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท บนทางหลวงหมายเลข 3209 (กาญจนบุรี-ด่านมะขามเตี้ย) บริเวณทางแยกหน้าจุดตรวจแม่กลอง หมู่ 2 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ แคป สีบอรนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน นครปฐม ขับออกมาจากถนนเรียบแม่น้ำแม่กลองเพื่อมุ่งหน้าไปทางอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยมีผู้โดยสารเป็นชาย 1 ราย หญิง 3 รายนั่งกินลมอยู่ที่กระบะท้ายแบบชิลล์ๆ เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรีจึงเรียกให้คนขับชะลอเลี้ยวเข้าไปชิดซ้ายริมถนน เพื่อขอตรวจเอกสารใบขับขี่
ทราบชื่อคนขับคือนายวิโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี ชาว จังหวัดนครปฐม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามผู้ที่โดยสารมากับรถผลปรากฏว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย และแรงงานทั้ง 4 รายไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 4 ราย บอกว่าพวกตนหลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้หลายเดือนแล้ว โดยจ่ายค่าหัวให้กับผู้นำพาคนละกว่า 2 หมื่นบาท โดยเข้ามาทำงานกับเฒ่าแก่รับซื้อข้าวโพดชื่อกอล์ฟ อยู่ที่บ้านวังศาลา ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมีหน้าที่ประจำเครื่องโม่ข้าวโพด
ด้านนายวิโรจน์ คนขับรถยนต์กระบะ ให้การว่า ตนกับแรงงานชาวเมียนมารทำงานและพักอยู่ที่เดียวกัน ก่อนหน้านี้เฒ่าแก่ชื่อกอล์ฟให้ตนขับรถยนต์ไปรับแรงงานทั้ง 4 คนที่ ตำบลแสนตอ อำเภอท่ามะกา เพื่อไปทำงานโม่ข้าวโพดในพื้นที่ ตำบลวังเย็น อำเภอเมืองกาญจนบุรี ตามคำสั่งของเฒ่าแก่ โดยแรงงานทั้ง 4 คนช่วยออกค่าน้ำมันรถให้ จำนวน 200 บาท ระหว่างเดินทางไปงานก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายวิโรจน์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน เป็นผู้นำพาและให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 4 คน ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
/////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

