
วันที่ 21 พย. 68 พบอดีตหนุ่มโรงงานผันชีวิตออกมาปลูกข่าแดงขายหน่อบนเนื้อที่ 5ไร่เศษ แบ่งพื้นที่ทำกับพี่น้องปลูกข่า10กว่าปี ส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดอำเภอกบินทร์บุรี โดยตัดหน่อข่าขายทุกวันการปลูกข่ามีเทคนิคใครเทคนิคมัน ขยายพันธ์ง่ายๆปลูกระยะแถวห่าง1×1เมตรวางท่อสปริงเกอร์ให้น้ำทุก 2 วันในช่วงหน้าแล้งหน้าฝนลดลดการให้น้ำช่วงแรกปลูกจะเน้นใส่ปุ๋ยขี้ไก่เป็นหลัก และใช้ใบที่เหลือจากตัดต้นขายเป็นปุ๋ยอินทรย์ภายในตัว หลังจากข่าอายุได้ 3 เดือนจะเริ่มขุดหน่อขายได้แล้ว
นายทรงพล เผ่าแสง อายุ 46 ปี เกษตรกรชาวตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่าปลูกข่าแบ่งพื้นที่การปลูกกับแม่และน้องชายเนื้อที่ 5 ไร่เศษ ข่าขายได้ 3 ส่วนได้แก่ หัวข่าอ่อนเมื่อขุดออกมาจากต้นแล้วตัดรากออก ให้เหลือลำต้นไว้ราว 5 ซม.ส่วนที่สองข่าแก่จะตัดออกแยกไว้ขายให้กับแม่ค้าที่ทำพริกแกงในตลาดสด ส่วนที่สามลำต้น นำลำต้นที่ตัดไว้ประมาณ 35 ซม.นำมาปอกเปลือกขายมัดเป็นกำเป็นต้นขาอ่อน การขายหน่อข่านั้นจะขายกก.ละ36-40บาท ข่าแก่ขายกก.ละ 20 บาท และต้นข่าอ่อนขายกก.ละ 50 บาท ทุกเช้าจะขุดหน่อข่าทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า 30 กก.
การขุดหน่อขาจะแบ่งขุดออกให้เหลือไว้ด้านใดด้านหนึ่ง เลือกบริเวณด้านที่ข่าแตกหน่ออ่อนออกมาไว้ 4-5 ต้นแล้วตัดใบทิ้งใช้เปลือกมัดต้นไว้กันต้นหักล้มเพื่อเลี้ยงกอไว้รอตัดขายในอีก25วันข้างหน้าก็สามารถวนมาตัดขายได้อีก ทำแบบนี้จะสามารถหมุนเวียนตัดหน่อขาขายได้ตลอดปีมีรายได้ในการขายข่าวันละพันกว่าบาท ส่วนใบข่าจะตัดแล้วเอาวางไว้บริเวณรอบๆกอเพื่อเป็นปุ๋ยอินทรีย์
หลังจากตัดหน่อข่าแล้วจะนำมาล้างทำความสะอาด โดยใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดล้างดินและเปลือกใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็ล้างหน่อข่าแต่ละเหง้าแล้วนำไปตัดรากออกบรรจุใส่ถุง แล้วบรรจุใส่ถุงใสแบบ 5 กก.ขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นขาประจำได้เลย ซึ่งจ้างคนเฒ่าคนแก่ที่เป็นเครือญาติวันละ100กว่าบาทเพื่อเป็นค่าหมากค่าพลู




































