
รศ.ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ โดยระบุว่า โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินตลอดแนวถนนเลียบคลองสาม ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร มุ่งยกระดับความปลอดภัย ทัศนียภาพ และก้าวสู่การเป็น “สมาร์ตซิตี้” แห่งแรกของจังหวัดปทุมธานี พร้อมย้ำว่าจะคืนสภาพถนนให้ดีกว่าเดิมหลังโครงการแล้วเสร็จ และวอนประชาชนอดทนต่อการจราจรที่อาจติดขัดในช่วงดำเนินงาน ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด เฟสแรกของโครงการได้วางระบบสายไฟแรงสูง แรงต่ำ ลงใต้ดินเกือบสมบูรณ์ และเริ่มถอนเสาไฟฟ้าบางจุดแล้ว ในขณะที่เฟส 2 กำลังดำเนินงานต่อเนื่อง โดยมีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนับสนุนงบประมาณมากกว่า 60% คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ก่อนปรับผิวถนนใหม่ทั้งสายให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม

“การนำสายไฟลงดินเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวที่ประชาชนต้องเผชิญมานาน ทั้งสายไฟและสายเคเบิลที่ระโยงระยางหน้าบ้านเรือน ซึ่งก่อความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรและขัดขวางการเข้าช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน “หลายครั้งไฟไหม้แต่เจ้าหน้าที่ต้องรอการตัดไฟ ทำให้ช่วยเหลือได้ล่าช้า และเสี่ยงอันตราย พร้อมย้ำได้บูรณาการร่วมกับการไฟฟ้า และผู้ประกอบการสื่อสารเพื่อจัดระเบียบสายทั้งหมดอย่างจริงจัง โดยการตัดเสาไฟออก คือ สัญญาณเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนเห็นได้ชัดเจน ทั้งความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น และทัศนียภาพบนท้องถนนที่โล่งสวยงามมากขึ้น โดยมีการตั้งเป้าเฟส 2 ให้เสร็จภายในสิ้นปี หากทุกขั้นตอนเป็นไปตามแผน” รศ.ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา กล่าว
สำหรับโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินตลอดแนวถนนเลียบคลองสาม เกิดขึ้นโดยความร่วมมือจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จถนนสายนี้จะกลายเป็นถนนไร้เสาไฟฟ้าสายแรกของจังหวัดปทุมธานี โดยจะไม่มีสายไฟ หรือสายสื่อสาร รกรุงรังเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ถนนมีความปลอดภัย โล่ง โปร่ง และทันสมัย รองรับการติดตั้งกล้อง CCTV ระบบ IoT (Internet of Things) และเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานเมืองอัจฉริยะในอนาคต ดังเช่น ถนนสีลม สาทร อโศก พัทยา Walking Street และย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นต้น การนำสายไฟลงดินช่วยลดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง เพิ่มความเป็นระเบียบ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับชุมชนอย่างชัดเจน ซึ่งหนุนให้คลองสามมั่นใจว่าโครงการนี้จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาวเช่นเดียวกัน ทาง อบต.คลองสาม จึงขอความร่วมมือประชาชนเข้าใจในความไม่สะดวก และขอให้เชื่อมั่นว่า เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ ถนนสายนี้จะเป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ของปทุมธานีในอนาคตอย่างแน่นอน

