ตำรวจเร่งล่ามือปืนรถตู้ขาวฉุนปาดหน้าเข้าด่านเก็บเงิน บนด่วนประชาชื่น กระสุนฝังคอหนุ่มขับเก๋งดับอนาถ ก่อนหลบหนีไป

วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมฝ่ายสืบสวนและพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า

โดย พล.ต.ท.สยาม ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเรียกชุดสืบสวนประชุม และสอบปากคำ แฟนผู้เสียชีวิต นานกว่า 1 ชั่วโมง บอกว่า รถคันที่ก่อเหตุ ได้ขับปาดหน้ากันมากับรถของผู้เสียชีวิต ประมาณ 500 เมตรก่อนถึงด่านเก็บเงิน เมื่อถึงการเก็บเงินต่างคนต่างเข้าคนละช่อง แต่รถผู้ก่อเหตุเมื่อจ่ายเงินแล้วกลับชะลอรถรอรถผู้เสียชีวิตจ่ายเงินเสร็จจากนั้นก็ขับประกบ ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ขึ้นมายิงจำนวน 3 นัด เข้าที่ลำคอ 1 นัด และแขน 2 นัด ก่อนจะหลบหนีไป ทำให้รถเสียหลักแฟนผู้ตาย จึงบังคับรถก่อนไปชนเข้ากับข้างทาง

เบื้องต้น ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานและให้ฝ่ายสืบสวนทั้งสืบสวนบช.น. สืบสวนนครบาล 2 และ สืบสวนสน.ประชาชื่น ติดตามรถคันที่ก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่าหลังก่อเหตุหลบหนีไปทาง ถนนพุทธมณฑลสาย 7 มุ่งหน้าลงใต้

เมื่อถามว่า รถคันก่อเหตุนั่งมากี่คน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ ขอไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อน แต่เมื่อถามว่า ลักษณะการยิงเป็นมืออาชีพหรือไม่นั้น ผบช.น.ระบุว่า ก็ไม่ขนาดนั้น การยิงเป็นลักษณะกดเนื่องจาก รถผู้ก่อเหตุ มีลักษณะสูงกว่าและเพิ่งผ่านด่านเก็บเงินมายังไม่มีความเร็ว

เมื่อถามว่า ผู้เสียชีวิตและแฟนเพื่อชีวิตมาจากร้านเหล้าหรือไม่ ผบช.น.ระบุว่า แฟนผู้เสียชีวิตอ้างว่าเธอทะเลาะกับผู้เสียชีวิต และหนีมา บ้านเพื่อนย่านปากเกร็ด จากนั้นผู้เสียชีวิตขับรถมาจากเพชรเกษมเพื่อมารับเธอกลับบ้านแต่ระหว่างทางเกิดเหตุเสียก่อน

พล.ต.ท.สยาม ระบุว่า ตอนนี่อยู่ระหว่างการ ตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกับผู้ครอบครองรถหรือไม่ แต่ยืนยันเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ไม่ได้เป็นนักการเมืองหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุซึ่งหน้า แต่ตำรวจยังไม่ ตัดประเด็นใดทิ้งหากมีหลักฐาน หรือ พยานเพิ่ม ก็จะตรวจสอบทั้งหมดรวมถึงประวัติของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ

ด้านนางสาวอ้อย อายุ 29 ปี เพื่อนแฟนสาวของผู้เสียชีวิต ได้นำเสื้อผ้ามาให้นางสาวสาวิตรี เปลี่ยน ซึ่งแฟนของผู้ตายได้ขอร้องให้เข้ามาพบ พร้อมกับนำเสื้อผ้าชุดใหม่เข้ามาให้เปลี่ยน เนื่องจากชุดเดิมเปื้อนเลือดเพราะขณะเกิดเหตุ แฟนของผู้ตายนั่งอยู่ข้างคนตายด้วย

น.ส.อ้อย เล่าว่า ตนได้สอบถามเพื่อนว่าทำไมถึงโดนยิง ซึ่งเพื่อนของตนก็เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุพบรถตู้ดังกล่าว ขับเบียดมาก่อนประกบข้างแล้วใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งเพื่อนของตนก็ไม่เห็นหน้าคนยิง พร้อมกับไม่รู้จำนวนคนในรถ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเพื่อนได้เล่าให้ตนฟัง ว่าไปเที่ยวสถานบันเทิงมา แต่ยืนยันว่าเพื่อนไม่เมาเพราะคุยปกติ เมื่อสอบถาม น.ส.อ้อย ว่า เคยเห็นรถคันก่อเหตุหรือไม่ น.ส.อ้อย บอกว่าไม่รู้จัก

ส่วนคนตายตนไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้า ซึ่งคาดว่าเป็นแฟนใหม่ของเพื่อน แต่ยืนยันว่าเพื่อนของตนไม่ได้มีปัญหาชู้สาวกับใคร และแฟนคนก่อนก็เลิกกันรากันด้วยดี โดยลักษณะนิสัยส่วนตัวของเพื่อนตนจะเป็นคนเงียบ และตนทราบว่าเพื่อนมีอาการป่วยซึมเศร้า ต้องกินยาตลอดเวลา ไม่รับปัจจุบันไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ส่วนผู้ตายก็ไม่ทราบว่าทำอาชีพอะไร

You May Also Like