จากสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ส่งผลให้กำลังพลกองทัพบกซึ่งปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจด้วยความเสียสละ กองทัพบกจึงได้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพแก่ทหารหาญผู้กล้า เพื่อเชิดชูเกียรติและสดุดีการอุทิศชีวิตเพื่อประเทศชาติอย่างสมเกียรติ
โดยในวันนี้ 24 ธ.ค.68 พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบกร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพกำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 3 นาย ดังนี้
จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จากสู้รบ บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.68 โดยมี นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ และ พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ วัดห้วยปอ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานชั้นยศ เป็น พลตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพบก, เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 12,234,536 บาท
พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จากสู้รบ บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.68 โดยมี นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ และ พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ วัดกลางขุขันธ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานชั้นยศ เป็น ร้อยตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 11,116,263 บาท
จ่าสิบเอก พรศักดิ์ เอี่ยมสอาด สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จากสู้รบ บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ และ พลเอก ไพศาล หนูสังข์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ วัดบ้านขาม อ.เมือง จ.นครนายก กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานชั้นยศ เป็น พลตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพบก, เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 12,329,391 บาท
สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้
กองทัพบกขอสดุดีแด่กำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ยืนยันจะดูแลสิทธิ สวัสดิการ รวมทั้งความเป็นอยู่ของครอบครัวและทายาทของทหารกล้าทุกนายอย่างดีที่สุด ความกล้าหาญ ความเสียสละ และความจงรักภักดีที่ทหารหาญทุกท่านได้อุทิศให้แก่ประเทศชาติ นับเป็นเกียรติภูมิสูงสุดของกองทัพบก และจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำ ตลอดจนอยู่ในหัวใจของประชาชนไทยตลอดไป…………………………….. ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก, 24 ธันวาคม 2568
