
วันที่ 11 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ บริเวณอารามหลวงวัดศรีสุวรรณาราม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ชาวกะเหรี่ยงได้มีพิธีสืบสวนประเพณีผูกข้อมือชาวกเหรี่ยงรับขวัญเดือน 9 (หรือพิธีไคจูหล่าเขาะ) โดยมีชาวกะเหรี่ยงที่มีผู้เฒ่าอาวุโส เดินถือธงชาติไทยตามด้วยธงศาสนา เดินนำหน้าหนุุ่มสาวที่ถือถาดที่สานด้วยไม้ไผ่ (เขร่) ภายในถาดมี อ้อย ทองโย๊ะ ข้าวเหนียวก้นหอย มะพร้าว ข้าวสวย กล้วย ข้าวต้มมัด และเส้นด้าย วางอยู่ในถาดเพื่อสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์มีกินมีใช้ไม่ขัดสนในการดำรงชีวิตของชาวกะเหรี่ยงแบบเรียบง่าย เมื่อผู้เฒ่าอาวุโส เดินขึ้นไปถึงบนวัดกลุ่มหนุ่มสาวที่ถือถาดเดินตามจะวางถาดตรงหน้าชายหญิงอายุกลางคน10 คู่ที่นั่งรออยู่บนวัดสำหรับเตรียมผูกข้อมือ พิธีเริ่มจากพระครูวิโรจน์กาญจนสิทธิ์ โรจะโณ เจ้าคณะตำบลไล่โว่ ประธานฝ่ายสงฆ์เป็นผู้นำในพิธีผูกข้อมือเริ่มจากนายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี เขต5.พรรคเพื่อไทย ประธานฝ่าย ฆารวาท นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกฯเทศมนตรี ตำบลวังกะ พันตำรวจเอกสันติ พทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี รวมถึงประชาชนชาวกะเหรี่ยงอีกกว่า 1,000 คนที่มาร่วมงานในพิธีผูกข้อมือรับขวัญเดือน9.(หรือพธีไคจูล่าเขาะ)ในครั้งนี้
สำหรับประวัติความเป็นมาของพิธีผูกข้อมือรับขวัญเดือน9. (ไคจูหล่าเขาะ) เป็นประเพณีสืบสานของชาวกะเหรี่ยงโปว์ หรือกะเหรี่ยงโผล่ จะจัดขึ้นในช่วงเดือน 9 ของทุกปี ซึ่งชาวกะเหรี่ยงจะทยอยจัดงานนี้เวียนไปตามหมู่บ้านในแต่ละหมู่บ้านตลอดทั้งเดือนทำให้ญาติพี่น้องตลอดจนเพื่อนฝูงสามารถไปมาหาสู่ร่วมกิจกรรมได้ ช่วยกะเหรี่ยงเชื่อว่าเดือน 9 เป็นช่วงที่วิญญาณชั่วจะกินขวัญอาจทำให้ขวัญของแต่ละคนหนีกระเจิดกระเจิง จะมีการแคะแม่มันใดให้เกิดเสียงดังเพื่อให้ขวัญที่อยู่ไกลๆจะได้รับรู้และเดินทางกลับมา ลูกหลานจะมานั่งรวมกันเพื่อให้ผู้เฒ่าอาวุโสผูกด้ายรับขวัญที่ข้อมือ นี่คือเป็นวิถีประเพณีที่มีนัยยะรากเง้าแห่งความเชื่อและเป็นการต้อนรับการกลับมาของลูกหลานญาติพี่น้องที่จากถิ่นไปแดนไกลและคิดถึงบ้านสร้างความผูกพันธ์กันในครอบครัวและชุมชนซึ่งชาวกะเหรี่ยงยังคงวิถีดีงามและเป็นการสืบสานประเพณีที่ดีงามของชาวกะเหรี่ยงนี้ต่อไป
สำหรับประวัติย่อๆความเป็นมาและวัตถุประสงค์:
พิธี ไค จู หล่า เขาะ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล เพื่อเรียกขวัญให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล และความสามัคคีในชุมชน
พิธีนี้มีความเชื่อว่าเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และเป็นการขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เดิมพิธีจะจัดขึ้นภายในครอบครัวหรือเครือญาติ แต่ปัจจุบันมีการจัดในรูปแบบของชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ขั้นตอนและพิธีกรรม
- การเตรียมพิธี มีการจัดเตรียมเครื่องสักการะต่างๆ เช่น ด้ายมงคล ข้าวต้ม ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องประกอบพิธี
- การไหว้พระผู้เข้าร่วมพิธีจะไหว้พระรับศีลจากพระภิกษุสงฆ์
- การทำบุญตักบาตร มีการทำบุญตักบาตร และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ
- การผูกข้อมือ ผู้สูงอายุที่เป็นที่เคารพนับถือในชุมชน จะเป็นผู้ประกอบพิธีผูกข้อมือ โดยจะมีการกล่าวคำอวยพรและผูกด้ายมงคลที่ข้อมือ
- การอธิษฐานจิต ผู้เข้าร่วมพิธีจะอธิษฐานจิตขอพรและความเป็นสิริมงคล.
- มีการรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อสร้างความสามัคคีและเป็นสิริมงคล
/////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์