
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ 15 ส.ค.68 พันตำรวจเอกสันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พันเอกพรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พันเอกปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พันตำรวจโทกิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พันตำรวจโทสมศักดิ์ นวลศรี ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 134 ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดที่บริเวณจุดตรวจความมั่นคงน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อย่างเคร่งครัด
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 กว 4409 กรุงเทพมหานคร ขับมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 323 มาจากทางด้านชายแดนด่านด่านเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอสังขละบุรี เมื่อมาถึงด้านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบคนขับคือนาย ซอ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 31 ปี ชาวเมียนมาร์ ภายในห้องโดยสารพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ จำนวน 7 ราย เป็นชายทั้งหมด โดยนายซอ คนขับไม่มีเอกสารการอนุญาตให้อยู่หรือให้เข้ามาในราชอาณาจักร ส่วนแรงงานจำนวน 8 รายไม่มีเอกสารใดๆมาแสดงเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงอายัดรถยนต์เอาไว้เป็นของกลางพร้อมคุมตัวนายซอคนขับพร้อมแรงงานไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี
โดยนายซอ ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้ขับรถไปรับแรงงานจำนวนดังกล่าวที่บริเวณทางเข้าน้ำตกตะเคียนทอง แล้วให้ไปส่งในตัวอำเภอสังขละบุรี เมื่อไปถึงจัดนัดหมายจะได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ส่วนกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 7 ราย นั้นสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ จึงต้องสอบปากคำผ่านล่าม โดยผู้ต้องหาให้การผ่านล่ามว่าพวกตนเป็นชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพื่อต้องการไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย แต่ยังมีทราบว่าจะต้องไปทำงานในพื้นที่ใด เพราะต้องให้นายหน้าเป็นผู้นำพาไปยังที่ทำงาน ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัว แรงงานทั้ง 7 ราย รวมถึงนายซอ คนขับ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา กระทำความผิด “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”และนอกจากนี้นายซอ ยังต้องถูกดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นการจับกุม” อีก 1 คดี
///////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์




































