จากที่กองทัพบก มีความห่วงใยสุขภาพของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สู้รบ ได้มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบก และโรงพยาบาลทหารในพื้นที่ ส่งทีมตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจและประเมินสภาพจิตใจของกำลังพลในฐานปฏิบัติการต่างๆ ซึ่ง โรงพยาบาลค่ายวิวัฒน์โยธิน ได้นำทีมแพทย์ลงปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ประเมินสภาพทางจิตใจหรือปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังพล เพื่อให้สามารถแก้ไขและเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ตั้งแต่หลังมีข้อตกลงหยุดยิงที่ผ่านมา เพื่อดูแลและคลายความกังวลใจ รวมทั้งการดำเนินงานของทีมแพทย์ทหาร ถือเป็นหนึ่งในมาตรการดูแลกำลังพลด้านการแพทย์ของกองทัพบก ที่ครอบคลุมใน 3 ระยะหลักของการปฏิบัติการทางทหาร ทั้งการเตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่ ก่อนที่กำลัง , ระหว่างปฏิบัติภารกิจ โดยทำหน้าที่ค้นหา เฝ้าระวัง และให้การช่วยเหลือกำลังพลที่เผชิญความเครียดหรือมีภาวะเสี่ยงทางจิตใจ มุ่งเน้นทั้งการสังเกตอาการ ประเมินความรุนแรง ให้คำปรึกษาและบำบัดเบื้องต้น ตลอดจนการส่งต่อเพื่อการรักษาที่เหมาะสม ในระยะการดูแลหลังเสร็จสิ้นภารกิจ

การดูแลกำลังพลยังคงดำเนินต่อ โดยเฉพาะในกรณีที่มีกำลังพลบาดเจ็บหรือสูญเสีย จะเข้าไปดูแลสภาพจิตใจทั้งผู้ป่วยและครอบครัว พร้อมทั้งมีการตรวจสุขภาพซ้ำเพื่อประเมินผลกระทบจากการอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และดำเนินการฟื้นฟูทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อป้องกันภาวะเครียดหรือบาดแผลทางใจจากประสบการณ์ภารกิจที่ผ่านมา ซึ่งหากพบกำลังพลอยู่มีแนวโน้มสภาวะเครียดสูง ทีมแพทย์จะส่งตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาและเยียวยาสภาพจิตใจในทันที เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของกำลังพลให้กลับมาปกติโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการตรวจรักษาอาการเจ็บป่วยทั่วไป การเฝ้าระวังโรคระบาด การให้วัคซีนบาดทะยักและวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สร้างความพร้อมด้านร่างกายให้กับกำลังพลในการปฎิบัติหน้าที่ในห่วงจากนี้ไปเรื่อยๆ พันตรีหญิง กุลธิดา คลองงาม ทหารแพทย์โรงพยาบาลค่ายวิวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25 บอกว่า ทีมแพทย์ M-MCATT ร่วมออกทำหน้าที่ดูแลสภาพจิตใจของกำลังพล ที่ปฎิบัติหน้าที่ในแนวชายแดน ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่พบว่ากำลังพลมีสภาพ กำลังใจที่ดีเพราะว่าได้รับกำลังใจจากเพื่อนทหารด้วยกัน ผู้บังคับบัญชา หรือแม้กระทั่งกำลังใจจากพี่น้องประชาชนที่มีมายังล้นหลาม
ปุรุศักดิ์ แสนกล้า รายงาน