
วันนี้ (24 ส.ค. 2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยฯ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการค้า โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ โดยในช่วงเช้า
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะรัฐมนตรีช่วยว่าการและอธิบดีในสังกัด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าและสำรวจตลาดวัดสวนมะม่วง อำเภอเมืองจันทบุรี โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายกิตติพงษ์ กิตติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี และนายกิจฐพร โชติสุวรรณ์ นายกเทศบาลเมืองจันทบุรี ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า เยี่ยมชมสินค้าการเกษตร พร้อมชิมปาท่องโก๋สร้างบรรยากาศคึกคัก ก่อนเดินชมตลาดหลังจากนั้นเดินทางเข้าประชุมที่ห้องประชุมสวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลน นานาชาติ ร.9 เพื่อหารือประเด็นร้อน “การค้าชายแดนไทย–กัมพูชา และปัญหาลำไยส่งออกจีน” โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ที่ประชุมรายงานว่า ความไม่สงบตามแนวชายแดนส่งผลให้มูลค่าการค้าของจันทบุรีหายไปกว่า 1,400 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณสินค้าส่งออกไปกัมพูชาลดลงถึง 20.14% เมื่อเทียบกับปีก่อน กระทรวงพาณิชย์ย้ำว่า “ไม่นิ่งนอนใจ” พร้อมเดินหน้ามาตรการเร่งด่วน ทั้งการจัดงาน Food and Fruit Festival และรณรงค์ให้คนไทยอุดหนุนผลผลิตเกษตรในประเทศ
.
ด้านปัญหาลำไยส่งออกจีนถือเป็นวิกฤติใหญ่ เนื่องจากทางการจีนเปลี่ยนวิธีตรวจสาร ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากเดิมที่ตรวจเฉพาะเนื้อผลไม้ กลายเป็นนำทั้งเปลือกและเนื้อมาตรวจรวมกัน ทำให้พบสารสูงถึง 200–300 ppm เกินกว่ามาตรฐานที่เคยกำหนดไว้ 50 ppm ส่งผลให้ลำไยถูกตีกลับจำนวนมาก ล้งหยุดรับซื้อ และเกษตรกรขาดทุนหนัก
.
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมส่งออกผลไม้ไทย เสนอให้รัฐบาลเร่งเจรจากับจีนเพื่อผ่อนผันการตรวจกลับไปใช้มาตรฐานเดิมชั่วคราว พร้อมเปิดโอกาสให้เกษตรกรปรับตัวตามเกณฑ์ใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป
.
รัฐมนตรีพาณิชย์ยืนยัน จะนำข้อเสนอทั้งหมดไปเจรจากับจีนโดยเร็ว พร้อมหาตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่งพาจีนเพียงรายเดียว และเตรียมจัดแสดงสินค้า 7 จังหวัดชายแดนเพื่อช่วยระบายผลผลิตของเกษตรกร.
ภาพ/ข่าว เอกลักษณ์ อานาภรณ์ ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี



































