ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่า เมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 30 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สำเริง มาชู สารวัตรเวรสภ.ปากพะยูน จ.พัท ลุง รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีมีไฟไหม้บ้านผู้ใหญ่บ้าน เลขที่ 243 ม.2 ต.ดอนประดู่ อ.ปากพะยูน โดยเพลิงกังไหม้ลุกลามจากชั้น 2 ของบ้านอย่างรวดเร็ว หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถน้ำจากเทศบาลตำบลปากพะยูน เพื่อช่วยดับไฟโดยรถน้ำจากเทศบาลตำบลปากพะยูน มาถึงที่เกิดเหตุใช้เวลาดับไฟ 15 นาที เพลิงสงบพบว่าไฟได้ไหม้บ้านบังเสียหายทั้งหลัง ส่วนความเสียหายยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน ซึ่งในช่วงเกิดเหตุ พบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน โดยนายสุเทพ ศุภเพียร อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านได้ออกไปทำภารกิจยังต่างจังหวัด ส่วนภรรยา กุลิสรา ศุภเพียร ได้ออกจากบ้านเพื่อไปคุยธุระกับน้องสาวที่ห่างออกไป ราว200 เมตร
จากการสอบถาม นายศุภชัย ขาวนุ้ยอายุ 45 ปี ลูกบ้านทราบก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนไฟลุกไหม้ จึงได้ออกมาดู พบไฟกำลังโหมไหม้ตรงชั้น 2 ของบ้าน ที่เป็นไม้ อย่างรวดเร็ว จึงได้วิ่งเข้าไปดูและตะโกนเรียกเจ้าของบ้านว่ามีใครติดอยู่ข้างในบ้าง แต่สุดท้ายไม่พบเจ้าของบ้าน จึงได้โทรศัพท์หาภรรยาผู้ใหญ่บ้านพบว่านั่งอยู่บ้านน้องสาวก่อนที่จะวิ่งกลับมาบ้านที่ไฟกำลังโหมไหม้ พร้อมตะโกนเรียกเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงเข้ามาช่วยกันขนย้ายสิ่งของ แต่ก็ไม่ทัน เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้ชั้นบนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพังลงมา แล้วรถดับเพลิงจากเทศบาลมาถึงเร่งระดมฉีดน้ำจนไฟสงบพบว่าบ้านเสียหายทั้งหลัง
ขณะที่นางกุลิสรา ศุภเพียร ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ได้ออกจากบ้านเพื่อไปคุยธุระกับน้องสาวที่ห่างออกไป ราว 200 เมตร แค่ 10 นาที ก็เกิดไฟลุกไหม้บ้านจึงวิ่งกลับมาพบว่าไฟโหมแรงจึงไม่กล้าเข้าไปขนย้ายสิ่งของภายในบ้านกลับออกมาได้ จนได้รับความเสียหายทั้งหมด ในเบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านสองชั้น โดยชั้นบนเป็นไม้ ซึ่งมีสภาพเก่า ชั้นล่างเป็นปูน โดยสาเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้คาดว่าฟ้าน่าจะลัดวงจร แต่อย่างก็ตามทางพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพัทลุงเข้าตรวจหาสาเหตุของไฟไหม้อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัดว่าสาเหตุมาจากอะไร.
Discussion about this post