วันที่ 7 กันยายน 2568 ที่โรงแรมเชียงใหม่ออคิด อ.เมือง จ.เชียง ใหม่ นายคงกระพัน เวฬุสาโรจน์ ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “การศึกษาแนวทางการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ผ่านระบบนิเวศทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ภายใต้ โครงการวิจัยเด็กไทยมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และสมรรถนะสูงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) โดยมี ศ.ดร.สุบัน พรเวียง หัวหน้าโครงการวิจัย ในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยลดความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างโอกาสทางสังคมคณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ทีมหนุนเสริม และนักเรียนจากหลายสถาบัน ในเชียงใหม่ เข้าร่วมจำนวนมาก

ภายในงานมีการ แบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ทีมหนุนเสริม ครูผู้สอน และนักเรียน โดยแต่ละกลุ่มได้สะท้อนความต้องการสำคัญเพื่อการพัฒนาระบบนิเวศทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งนี้ผลจากการศึกษาเบื้องต้น พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ต้องการระบบที่ช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการข้อมูล การติดตามผลการเรียนรู้ และการเชื่อมโยงเครือข่ายโรงเรียนเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่ทีมหนุนเสริม ต้องการให้เน้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรการสร้างเครื่องมือสนับสนุนและการจัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อวิเคราะห์และประเมินผลได้อย่างแม่นยำ
ส่วครูผู้สอน ต้องการสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่ทันสมัย เข้าใจง่าย และระบบประเมินผลที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อผู้เรียน ด้านนักเรียน ได้แสดงความต้องการสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลาย สนุกสนาน เข้าถึงได้ง่าย และสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการเรียนรู้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากทีมส่วนกลาง มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ (Saturday School Foundation) ที่เข้ามาสังเกต การณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การใช้ โปรแกรม Craft AI Smart Assessment ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการประเมินผลอัจฉริยะที่ช่วยให้ครูสามารถจัดชุดข้อสอบ จัดสอบ และตรวจผลเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบผู้ดูแลพื้นที่ และผู้ดูแลส่วนกลางที่สามารถกำกับดูแลฐานข้อมูลและความถูกต้องของระบบได้อย่างเป็นระบบด้วย
ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้าง ระบบนิเวศทางการศึกษาที่เกื้อหนุนต่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนการศึกษาเชิงพื้นที่ ที่สามารถต่อยอด และขยายผลไปยังภูมิภาคอื่นของประเทศต่อไป




































