
การปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้นโยบายของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และ นางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ที่มุ่งให้สำนักงานศุลกากรทั่วประเทศเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 04.30 น. นายสุรัตน์ เรืองประยูร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ นายสมพล ไทยจงรักษ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมทางศุลกากรและการจัดเก็บรายได้ ศภ.2 หน่วยสืบสวนและปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ร่วมทำการตรวจค้นรถยนต์กระบะคอกเหล็ก สีขาวและสีเทา จำนวน 2 คัน บริเวณถนนหมายเลข 12 อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จากการสืบสวนและการข่าว พบว่าได้มีการลักลอบหนีศุลกากรบริเวณริมโขงตามแนวชายแดนพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ผ่านเส้นทางดังกล่าวมุ่งสู่พื้นที่ชั้นในของไทย ผลการตรวจค้น จนท.พบมะม่วงแก้วขมิ้น เมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 210 ลัง น้ำหนักประมาณ 4,200 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 250,000 บาท บรรทุกอยู่ท้ายรถยนต์กระบะเสริมคอกเหล็กทั้ง 2 คัน โดยไม่มีเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
สอบถามคนขับรถทั้ง 2 ให้การสอดคล้องว่ารับสิ่งของมาจากพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโข จ.มุกดาหาร โดยได้รับการว่าจ้างให้นำไปส่งยังตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ
เหตุดังกล่าวเป็นความผิดฐานลักลอบนำของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 242, 246 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาศัยอำนาจตาม
มาตรา 166 และ 167 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงได้ยึดของกลางส่งด่านศุลกากร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป+++