
วันนี้ 11 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโดม จันทร์สุวรรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการให้ทุกกลุ่มป่าให้ชุดปราบปรามดักซุ่มฝังตัวในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ รวมถึงการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติอย่างเข้มข้น โดยนายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)ได้รับนโยบายสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)ปฏิบัติงานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพเพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามนโยบายของอธิบดีกรมอุทยานฯอย่างเคร่งครัด
โดยระหว่างวันที่ 10 – 11 ก.ย.ต่อเนื่อง 2 วัน 1 คืน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตามแผนการลาดตระเวนประจำเดือนกันยายน 2568 ด้วยการออกลาดตระเวนทั้งทางเรือและการเดินเท้า
โดยเวลา 08.00 น.(วันที่ 10 ก.ย.)เมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึงบริเวณป่าห้วยน้ำขุ่น ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นชายฉกรรจ์ จำนวน 3 ราย แบกเป้สัมภาระลักษณะคล้ายกับกลุ่มขบวนการลักลอบเข้าไปขุดดินร่อนหาแร่ทองคำ บริเวณป่าปิล๊อกคี่ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ พื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1A ในเขตอุทานแห่งชาติทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนจึงแสดงตัวเข้าจับกุมและขอตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย โดยสามารถคุมตัวชายฉกรรจ์เอาไว้ได้ทั้ง 3 ราย
ทราบชื่อคือนายวัย ไม่มีชื่อสกุล (ชาวพม่า)อายุ 35 ปี นายไม้ ไม่มีชื่อสกุล (ชาวพม่า) อายุ 35 ปี และนายจ่อ ไม่มีชื่อสกุล (ชาวพม่า) อายุ 32 ปี ทั้ง 3 อาศัยอยู่หมู่ที่ 6 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าเป้สัมภาระ พบอุปกรณ์สำหรับร่อนแร่ อุปกรณ์สำหรับยังชีพ เปล ฟลายชีท ไฟฉาย รวมถึงมีดเหน็บ จากการสอบถามบุคคลทั้งสามได้ให้การยอมรับว่ากำลังเดินทางเพื่อเข้าไปขุดหาแร่ทองคำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จริง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวพร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดเอาไว้เป็นของกลาง
นายโดม จันทร์สุวรรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานการจับกุม จึงเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวน่าจะเดินทางเข้ามาเพิ่มอย่างแน่นอน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมวางกำลังซุ่มโป่งที่จุดเดิน รอจนกระทั่งเวลา 13.20 น.ปรากฎว่าพบชายฉกรรจ์ 1 ราย กำลังเดินแบกเป้สัมภาระคล้ายกันเดินมาทางจุดที่เจ้าหน้าที่ซุ่มโป่งอยู่ เมื่อมาถึงจึงแสดงตัวพร้อมเข้าควบคุมตัวชายรายดังกล่าวเอาไว้ ทราบชื่อต่อมาคือนายอ้วน ไม่มีชื่อสกุล (ชาวพม่า) อายุ 30 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 1 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค ภายในเป้มีทั้งอุปกรณ์ร่อนแร่ทองคำ ไฟฉาย มีดเหน็บ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับยังชีพ ซึ่งนายอ้วน ให้การว่ากำลังเดินทางเข้าป่าไปขุดดินร่อนหาแร่ทองคำ บริเวณเดียวกันที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลาง ไปจดทำบันทึกเรื่องราวเอาไว้เป็นหลักฐาน ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ปช.4(ห้วยเขย่ง) โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จึงได้แจ้งให้บุคคลทั้ง 4 ราย ทราบว่า การกระทำของผู้ถูกจับเป็นการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ฐาน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 ประกอบมาตรา 47
โดยการลักลอบเข้าไปร่อนแร่หาทองคำนั้น อำเภอทองผาภูมิโดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ได้มีประกาศ ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เรื่องมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขุดดินเพื่อหาแร่ทองคำ ห้ามมิให้ผู้ใดสำรวจแร่ ขุดแร่ ทำเหมืองแร่ ในที่ใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวบุคคลทั้งสามไปดำเนินการปรับเป็นพินัย สถานเดียวจากนั้นจึงปล่อยตัวไป
ต่อมาเวลา 08.00 น.วันนี้ 11 ก.ย.68 คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้ดำเนินการดักซุ่มที่บริเวณเดียวกันเป็นวันที่สอง พบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 1 ราย แบกเป้สัมภาระคาดว่าน่าจะเข้าไปดำเนินการขุดหาแร่ทองคำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
เมื่อชายรายดังกล่าวมาถึงจุดซุ่มโป่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมเข้าจับกุมตัวชายรายดังกล่าวเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายเปีย (ไม่มีชื่อสกุล)ชาวพม่า อายุ 29 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จากการตรวจค้นกระเป๋าเป้ พบอุปกรณ์ร่อนแร่ พร้อมไฟฉาย มีดเหน็บ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับยังชีพ ซึ่งนายเปียให้การยอมรับสารภาพว่า กำลังเดินทางไปขุดดินร่อนแร่ทองคำ จริง เจ้าหน้าที่จึงจดทำบันทึกเรื่องราวแล้วทำการปรับเป็นพินัย(เปรียบเทียบปรับ)สถานเดียวก่อนที่จะปล่อยตัวไปเช่นเดียวกัน
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้รายงานให้นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ และนายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)ทราบแล้ว ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการป้องกันก่อนที่กลุ่มบุคคลทั้ง 5 ราย จะเข้าไปทำลายทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นป่าลุ่มน้ำชั้น 1A จะเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ได้เป็นอย่างดี
//////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์