
สระบุรี – วันนี้ (18 ก.ย. 68) บรรยากาศที่หอประชุมหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม เป็นไปอย่างคึกคัก ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีได้เปิด “โครงการเฝ้า ตรวจ เตือน และเตรียมการเพื่อรองรับภัยพิบัติ ประจำปี 2568” ระดมประชาชนจิตอาสา ตัวแทนจากสถานศึกษาชั้นนำ และชุมชนริมแม่น้ำป่าสักกว่า 250 คน เข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งอุทกภัย วาตภัย และอัคคีภัย ตั้งเป้าสร้างเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้มแข็ง ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือของตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี โดยมี พ.ต.อ.นรินทร์เนตร ศรีสุข ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เป็นผู้ดำเนินการโครงการ ที่เล็งเห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะอำเภอเมือง แก่งคอย เสาไห้ และบ้านหมอ โดยมี พันตำรวจเอก สมคิด สาววัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิด และได้รับเกียรติจาก นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, ดร.ธนาพล จีรเดชภัทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม, พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี และ พ.ต.อ.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุทธบาท เข้าร่วมงาน
ไฮไลท์สำคัญของการอบรมในวันนี้ คือการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการที่เข้มข้น ซึ่งได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ 904 ที่ได้นำทีมวิทยากรจิตอาสาพระราชทาน 904 มาให้ความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี โดยเน้นการสอนทักษะที่จำเป็นอย่าง การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) และ การใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ซึ่งเป็นความรู้สำคัญที่สามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงทีก่อนที่หน่วยแพทย์จะมาถึง
เป็นที่น่าสนใจว่า การอบรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคการศึกษาและชุมชนอย่างกว้างขวาง โดยมีคณะครู นักเรียน และตัวแทนจาก โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม, โรงเรียนสวนกูหลาบวิทยาลัย สระบุรี, โรงเรียนแก่งคอย, และโรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” เข้าร่วมสังเกตการณ์และเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมี ผู้แทนจากชุมชน 6 แห่งที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยในพื้นที่ของตนเอง
พันตำรวจเอก สมคิด กล่าวว่า “หัวใจของโครงการนี้ คือการสร้าง ‘คน’ ให้มีความรู้และทักษะ เราต้องการให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาและเป็นกำลังสำคัญด่านแรกในการรับมือกับภัยพิบัติ การที่วันนี้เรามีทั้งเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ และพี่น้องชุมชนริมน้ำมาร่วมมือกัน ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเข้มแข็งให้กับจังหวัดสระบุรีได้อย่างยั่งยืน”




































