วันที่15ตค.68 ที่วัดเขาวงค์ ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากพระครูกิตติปัญญาธร เจ้าคณะตำบลย่านรีเขต1(เจ้าอาวาสวัดเขาวงค์) ว่าได้ไปเปิดศาลาการเปรียญเพื่อที่จะเปิดเครื่องขยายเสียงของวัดเนื่องในวันนี้เป็นวันพระแรม8ค่ำเดือน10 แต่พบว่าที่ชั้นวางเครื่องขยายเสียงในศาลาฯสายไฟถูกตัดขาด สายแจ๊คตัวรับสัญญาณไมค์และแผ่นซีดีหายไปก็เลยไม่ได้เปิด ต่อมาได้ให้พระเลขาเปิดดูกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าช่วงเวลา01.29น.ของวันที่15ตค.68มีชายรูปร่างผอมสูงใส่เสื้อผ้าสีดำสวมหมวกใส่รองเท้าบูธเดินเข้าไปในศาลาฯและได้ปิดไฟในโรงครัวจากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปในศาลาตรงที่เครื่องขยายเสียงวางอยู่และได้ลักของที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องขยายของวัดไป

ในเวลาต่อมาได้แจ้งนายวิโรจน์ จันทึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.ที่7ต.เขาไม้แก้วทราบ จากนั้นได้แจ้งนายสมประสงค์ บรรลังเดช ผู้ใหญ่บ้าน ม.ที่7 ต.เขาไม้แก้ว ให้ทราบและได้แจ้งนายสมพงษ์ มาสร้าง ผช.ม.7ต.เขาไม้แก้ว นายอาทิตย์ แก้วพิกุล ผช.ม.9ต.ย่านรี ผช.นายประเมิน ด่านเจ้าแดง ผช.ม.9ต.ย่านรี และนายอดุลย์ สีนนทอง ผช.ม.10ต.ย่านรีมาตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดของวัด พบชายในกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพใว้ได้จึงทราบว่าบุคคลในภาพต้องสงสัยคือนาย สมศักดิ์หรือกว้าง(ไม่ทราบนามสกุล)บ้านเดิมอยู่ที่จ.ขอนแก่น
จากนั้นได้แจ้งร.ต.ท.ภักดี เผือกพูลผล สายตรวจ สภ.โปร่งสะเดา ร่วมตรวจสอบและได้ออกตามหาตามป่าบริเวณข้างวัดและได้เจอตัวที่ถังประปาข้างวัดเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้น เจออุปกรณ์เสพยาบ้าในกระเป๋าสะพายเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาที่บ้านพักของนายสมศักดิ์ ไม่ทราบเลขที่ ซึ่งนายจ้างได้เช่าบ้านให้นายสมศักดิ์พักอาศัยอยู่เพื่อดูแลสวนยางใกล้วัดและได้ทำการตรวจค้นที่บ้านที่นาย สมศักดิ์อาศัยอยู่แต่ไม่พบสิ่งของเจ้าหน้าที่ได้สอบถามพร้อมกับดูภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งนายสมศักดิ์ปฏิเสธว่าไม่ใช่ตนเองตามที่ปรากฏในภาพ
พระครูกิตติ ปัญญาธรกล่าวว่ามันมีภาพกล้องวงจรปิดอยู่ก็ไม่ได้ปรักปรำใครแต่ของหายไปจริงทั้งที่ของที่วัดนี้ไม่เคยหายเลยอยู่มา40ปีแล้วไม่เคยมีของหาย แต่วันนี้จะไปเปิดเครื่องขยายเพราะเป็นวันพระเปิดไม่ได้เพราะของหายไปแล้วไม่ได้มีอะไรคลุมเจ้าหน้าที่ก็ไปจับกุมตัวแต่ก็ไม่ยอมรับหรอกแต่ก็มีภาพกล้องวงจรปิดอยู่ ช่วงนี้มันเป็นเรื่องของบ้านเมืองสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีญาติโยมทั้งหลายก็ดีวัดวาอารามก็ดีต้องระมัดระวังให้ดีเพราะว่าเมื่อมีอย่างนี้แล้วใว้ใจไม่ได้ของที่วัดนี้ทิ้งมา40กว่าปีไม่เคยหายมีวันนี้วันแรกที่มันหาย
จากการสอบถามนายสมศักดิ์ ให้การว่าตนเองไม่ได้เป็นคนเข้าไปลักของวัดตามในภาพกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด คนในภาพไม่ใช่ตนเองสาบานได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.ณัฐติรุจ วงษ์สันต์ พนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป



































