ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หลังโรงเจ ม.5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ว่าสงสัยในการกระทำของข้าราชการท้องถิ่นในพื้นที่รายหนึ่ง ที่ใช้อำนาจส่วนตัว นำรถตักของหน่วยงานท้องถิ่นติดป้ายหน่วยงานท้องถิ่นอย่างชัดเจน นำมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว โดยนำรถตักดินมาทำการปรับสภาพพื้นที่ดินในส่วนที่เป็นของตนเองไม่ใช่ส่วนรวม อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าชายเลน หากเป็นชาวบ้านทั่วไปคงถูกทางราชการจับกุมไปแล้ว จึงอยากจะขอให้หน่วยงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการกระทำของข้าราชการรายดังกล่าวด้วยว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ หรือถ้าให้ดีขอให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจจากส่วนกลางช่วยมาตรวจสอบด้วย เพราะชาวบ้านเห็นว่าน่าจะเป็นการทำผิดกฎหมายในหลายเรื่อง แต่พอเป็นข้าราชการรู้จักหลายหน่วยงานจึงไม่มีใครมาตรวจสอบ แต่หากเป็นชาวบ้านทำคงโดนจับไปนานแล้ว
จากนั้นจึงได้สอบถามข้อมูลไปยังหน่วยงานในพื้นที่ในเบื้องตนทราบว่า พื้นที่ของข้าราชการรายดังกล่าวมีเนื้อที่จำนวน 2 ไร่เศษ เมื่อเดือน กค.62 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพร้อมดำเนินคดี เรื่องอยู่ในชั้นศาล เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ 722/2563 และคดีกมายเลขแดงที่ อ 11/2563 มีการต่อสู้ในชั้นศาลอย่างต่อเนื่องกับผู้ครอบครองที่ดินป่าชายเลน จนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้รื้อถอน หลายครั้งที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานพยายามเข้าไปในพื้นที่แต่ก็ทำได้ยาก เนื่องจากมีการกั้นรั้วมิดชิด มีคนคอยดูแลพื้นที่พื้นที่ มีการร่วมมือกันนำรถของหลวงมาใช้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจ้าหน้าที่กำลังพยายาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่คนดูแลก็ใช้ข้อกฎหมายมาต่อสู้ดึงเวลาโดยมีกลุ่มคนที่มีอำนาจในท้องถิ่นคอยช่วยเหลือสนับสนุน หากเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้มีอำนาจจากส่วนกลางลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยดำเนินการไม่อย่างนั้นป่าชายเลนคงจะถูกบุกรุกต่อไปอย่างต่อเนื่อง.
Discussion about this post