เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 เมษายน 2565 ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านอิม หมู่ที่ 5 ตำบลต้าผามอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ นายโชติพงศ์ เปล่งวิทยา นายอำเภอลอง พันตำรวจเอกเกษม ฉายาจักร ผกก.สภ.เวียงต้า นางพิกุล เอี่ยมพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลต้าผามอก นายองอาจ เอี่ยมเจริญ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลต้าผามอก
นายโสพล สุรภี ตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 และ กำนันตำบลต้าผามอก พร้อมหน่วยงานลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเครือข่ายชาวบ้านต้านเหมือง โดยมี นายจิรวัฒน์ (โด่ง) ดวงประทีป แกนนำ ม.5 บ้านอิม ตำบลต้าผามอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ และนางสาวสมใจ ต๊ะเอ้ย ม.8 บ้านศรีใจ ตำบลเดียวกัน ทั้งนี้มีคณะกรรมาธิการหลายท่าน เข้าร่วมติดตาม ประกอบด้วย
นายอำนวย พลหล้า คณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากร ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
นายปิยะ มินทราศักดิ์ คณะทำงานสถาบันพระปกเกล้า นายธนกริช อภิรักษ์วิสุทธิ์ คณะทำงานพรรคก้าวไกล นายติรานนท์ เวียงธรรม ทนายเค คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง นายวรายุ คณะกรรมาธิการ แรงงาน
จากการลงพบปะของนายอำเภอลอง ในครั้งนี้ ทำให้ได้รับทราบปัญหาจากพี่น้องชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ที่สร้างความย่อยยับให้กับสิ่งแวดล้อมและจิตใจของพี่น้องชาวบ้านลุ่มน้ำแม่สวกหลายหมู่บ้าน หลังจากนั้นคณะนายอำเภอลองฯ พร้อมหน่วยงานลงพื้นที่ดูของจริง ที่สร้างผลกระทบชาวบ้านและสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลา กว่า 45 ปี เริ่มมีเหมืองแร่ มาตั้งรกรากในพื้นที่ เมื่อปี 2520 โดยเฉพาะลำน้ำแม่สวก ซึ่งเป็นต้นน้ำเปรียบเสมือนสายเลือดของพี่น้องชาวตำบลต้าผามอก ฯ ในแต่ละปีจะใช้น้ำจากลำแม่สวก เพื่อใช้ในการเกษตร เช่น ทำนาข้าว ปลูกไผ่เป๊าะ ข้าวโพด และอื่นๆ สร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องชาวบ้าน
นายจิรวัฒน์ (โด่ง) ดวงประทีป แกนนำ ม.5 บ้านอิม ตำบลต้าผามอกฯให้ข้อมูลว่า หลังจากที่มีเหมืองแร่มาตั้งในพื้นที่ก็สร้างผลกระทบให้กับพี่น้องชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลำน้ำแม่สวกก่อนหน้านั้นช้างสามารถลงไปเล่นน้ำได้ น้ำท่วมหลังช้าง หลังจากนั้นมาลำน้ำแม่สวกก็ตื้นเขินมาเรื่อยๆจนปัจจุบันเป็นสนามเด็กเล่นไปหมดแล้ว ไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียว ซึ่งสร้างความย่อยยับคับแค้นใจให้กับพี่น้องชาวบ้านในลุ่มน้ำแม่สวกโดยเฉพาะบ้านอิม ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดเหมืองฯ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก สิ่งที่สำคัญ “ซุปเปอร์มาร์เก็ต” ของพี่น้องชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เช่นว่า กุ้งหอย ปูปลาในลำน้ำแม่สวกและพืชพันธุ์ธัญญาหาร ซึ่งเคยอุดมสมบูรณ์แต่ก่อนมานั้นหายเกลี้ยงไปกลับเศษแร่ ที่พังทลายลงมาทับถมลำน้ำแม่สวก เหมือนกับพี่น้องชาวบ้านหมดสิ้นประดาตัวอะไรทำนองนั้น ทาง นางสาวสมใจ ต๊ะเอ้ย แกนนำ ม.8 บ้านศรีใจ กล่าวแบบหมดหวังว่า หลังจากที่ตนเองไปทำงานต่างจังหวัดมาสักพักหนึ่งและได้มีโอกาสกลับมาอยู่บ้านดูแลครอบครัวและได้รับการปรึกษาจากผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้านถึงเรื่องผลกระทบจากเหมืองแร่ ที่สร้างความย่อยยับให้กับชุมชน โดยสิ่งแวดล้อมเป็นเวลายาวนานมาก ตัวเองเห็นว่าถ้าปล่อยไปอย่างนี้พี่น้องชาวบ้านจะต้องกินข้าวคลุกฝุ่นแบบนี้ตลอดไปอย่างแน่นอน จึงได้หารือกับหลายฝ่าย มีการยื่นหนังสือต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่และหน่วยงานต่างๆให้เห็นความสำคัญในเรื่องที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ แต่ที่ผ่านมาเหมือนว่า หน่วยงานต่างๆไม่เห็นความสำคัญกับพี่น้องชาวบ้าน ทั้งๆที่เราก็คือคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่ทำไมเราไม่ได้รับสิทธิ์เหล่านี้เลย
นางสาวสมใจ กล่าวอีกว่า หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวมาสักระยะหนึ่งได้มีโอกาสได้รู้จักกับหลายฝ่ายอย่างเช่นคณะกรรมาธิการของพรรคก้าวไกล ที่ให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบอันยาวนาน ได้ลงพื้นที่มาดูพื้นที่จริง มารับทราบปัญหาของพี่น้องชาวบ้านซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก และต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนในจังหวัดแพร่ ที่ได้มาดูพื้นที่จริง ที่พี่น้องชาวบ้านมีการเคลื่อนไหวตัวยื่นหนังสือกับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่มาหลายคนและหน่วยงานต่างๆซึ่งสุดท้ายก็รับทราบปัญหาของพี่น้องชาวบ้าน แบบคาตา
สำหรับการลงพื้นที่ ในวันนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลต้าผามอก โดยมีนางพิกุล เอี่ยมพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลต้าผามอก เกี่ยวข้อง ร่วมดูพื้นที่จริง และเห็นปัญหารับทราบปัญหาซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า ทางอบต.ทำโครงการขออนุญาตจากป่าไม้ เพื่อเรื่องการขุดลอกลำน้ำแม่สวก ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 นี้ทางอบต จะดำเนินการตั้งข้อบัญญัติในเรื่องค่าน้ำมันโดยจะขอสนับสนุนเครื่องจักรกลจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ซึ่งจะต้องมีน้ำทำการเกษตรต่อไป ส่วนทางคณะกรรมาธิการของพรรคก้าวไกล บอกว่า จะดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผบกรทบจากเหมือง ในการดำเนินการทุกด้าน เพื่อให้ได้รับสิทธิ์กลับคืนมาอย่างเต็มที
Discussion about this post