จากกรณี พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ หรือ สารวัตรท็อป อายุ 32 ปี สว.สืบ สวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นรต.รุ่น 66 ชาว ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ขับรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น C-HR ทะเบียน 8 กก 5066 กทม.เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนนมิตรภาพ (ขาออกตัวเมืองอุดรธานี) บริเวณหน้าวีทีแหนมเนือง ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี คอหักเสียชีวิตคาที่ ส่วนจ่าอากาศเอกหญิงณัฐรดา สุรเสน อายุ 26 ปี ชาวแขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ที่นั่งมาด้วยได้รับเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดวันที่ 14 เมษา ยน 2565 เวลา 03.00 น.
วันที่15 เมษายน 2565 เวลา 08.30 น. ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พ่อและแม่ ของ พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ หรือ สว.ท็อป ได้เดินทาง มารับศพลูกชาย ก่อนเดินทางไปจุดที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเรียกขวัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านเกิดที่ อ.วาริน ชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยมีพี่น้องเพื่อนตำรวจทั้ง อดีตผู้บังคับบัญชาและอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เดินทางมาร่วมทำพิธีกับครอบครัวสารวัตรท็อป โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ มาทำพิธี 1 รูป เพื่อเชิญดวงวิญญาณ ตามความเชื่อว่าหากไม่ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณอาจจะร่อนเร่อยู่บริเวณที่จุดเกิดเหตุ
แม่ของสารวัตรท็อป ได้ถือรูปถ่ายของลูกชาย ที่ใส่เครื่องแบบข้าราช การตำรวจสีขาวลงจากรถ แล้วนำไปตั้งเอาไว้ที่ข้างแบริเออร์ กันแบ่งช่องทางการจราจร พร้อมกับเครื่องเส้นไหว้ หลังจากทุกคนทำการจุดธูปแล้ว พระสงฆ์ก็นำพิธีสวดเชิญดวงวิญ ญาณ สารวัตรท็อป ท่ามกลางบรรยา กาศเป็นไปด้วยโศกเศร้าของทุกคน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นครอบครัว ก็นำร่างของสารวัตรท็อป เดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ร.ต.เลิศชัย สืบสหการ อายุ 65 ปี พ่อของสารวัตรท็อป บอกว่า เมื่อ 2-3 วัน ที่แล้ว รู้สึกมีอาการร้อนตัวไปหมด ทำให้อารมณ์ไม่ดีทั้งวัน ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้าย และได้คุยกับลูกชายครั้งล่าสุดทางไลน์ เขาบอกว่าสงกรานต์ปีนี้ คงไม่ได้เล่นสาดน้ำ และไม่ได้กลับบ้านไปสงฆ์น้ำพ่อแม่ ตนเองเคยเตือนลูกชายบ่อยครั้งในการขับรถว่าอย่าขับรถเร็ว พอเห็นสภาพรถของลูกชายก็ตกใจใน ตอนนี้พูดอะไรไม่ถูก และยังทำใจไม่ได้ของการจากไปของลูกชาย ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจเลยแม้ครั้งเดียว และเขาเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย ตนมีลูก2 คน โดยคนโตเป็นผู้หญิง ส่วนสารวัตรท็อป เป็นลูกคนเล็ก และเป็นลุกชายคนเดียว แต่เขาได้ทำงานก่อนพี่สาว ตั้งแต่ตนเป็นทหารมาไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ที่ตนต้องเสียน้ำตา และเสียใจที่สุดในชีวิต.
Discussion about this post