วันที่ 20 เม.บ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบ สวน สส. ภ.จว.ระยองและ ด.ต.ยุทธนา ปาริกวงศ์ษาชาติ ผบ.หมู่จราจร สภ.เมืองระยอง ได้นำกำลังร่วมเดินทางเข้าจับกุมนายติดแสน อายุ 22 ปี สัญ ชาติกัมพูชา พร้อมรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า CBR650R สีแดง ทะเบียน 2กก-68 ระยอ ได้ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง สืบเนื่องจากกรณีเมื่อในวันที่ 17 เม.ย.65 เวลา 13.00 น. ด.ต.ยุทธนา ปาริกวงศ์ชาติ ผบ.หมู่ จราจร สภ.เมือง ระยอง ได้จับกุมนายติดแสน พร้อมรถจยย. ในข้อหาดัดแปลงตัวรถ ท่อเสียงดัง บริเวณแยกสี่แยกหนองสนม ถ.สุขุมวิท ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยองจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ระยอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งได้มีการตรวจยึดรถจยย.พร้อมออกใบบันทึกการจับกุมจยย.คันดังกล่าวจอดไว้ด้านหน้า สภ.เมืองระยองภายในจุดเก็บรถของกลาง
ปรากฏว่าต่อมา ช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ด.ต. ยุทธนา ได้มาตรวจสอบรถของกลาง ที่จอดอยู่หน้าฟุตบาทภายในรั้วของ สภ.เมือง ระยอง ปรากฏว่า รถจยย. ฮอนด้าCBR 650R สีแดง ทะเบียน 2กก-68 ระยอง รถของกลางได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย เดินตรวจดูจนทั่วบริเวณก็ไม่พบเบื้องต้น จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กวีวุฒิ บุญเรือง รองสว.(สอบสวน) สภ เมืองระยอง และ สันนิษฐานว่า นายติดแสน สัญชาติกัมพูชา เป็นคนขโมยขี่รถจยย.ของกลางหนีไป จึงมีการประ สานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. เมือง ระยอง และ ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ระยอง ติดตามตัวและรถจยย.ของกลางทันที
ด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ระยอง ได้ออกติดตามจนสืบทราบมาว่า นายติดแสน ทำงานอยู่ภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงตามเข้าไปตรวจสอบในโรงงาน จนพบกับนายติดแสน ซึ่งกำลังทำงานอยู่ พร้อมกับรถจยย. คันดังกล่าว ที่จอดไว้ในโรงงาน จึงควบคุมตัวพร้อมรถจยย.ของกลาง มาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบสวน นายติดแสน ผู้ต้องหา ให้การว่า หลังจากถูกจับ รถจยย.แต่ตนเองมีเงินไม่พอเสียค่าปรับ จึงให้ตำรวจจราจรยึดรถจยย.ไว้ที่ สภ เมือง ระยอง โดยตนเองกับภรรยาได้นั่งรถประจำทางกลับไปยังบ้านพัก หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับ นายกล้า ซึ่งเพื่อนคนไทยและรักใคร่กันสนิทสนมกันมากเพราะคบหากันมานานแล้ว นาย กล้าเสนอตัวช่วยเหลือ โดยการขอเอากุญแจสำรองของรถจยย.ของตนเองที่เก็บไว้ภายในห้องพัก เพื่อจะไปเอารถมาคืนให้ โดยนายกล้าได้แอบย่องไปช่วงกลางดึก ก่อนใช้ลูกกุญแจสำรองสตาร์ทเอารถจยย.มาให้ตนเอง โดย ที่ไม่รู้ว่าจะผิดกฎหมาย เพราะนายกล้าแนะนำและบอกว่าไม่ผิด แล้วตน เองก็นำรถมาจอดไว้ในห้อง พอตอนเช้าก็ขี่ออกไปทำงานตามปกติจอดไว้ในโรงงาน จนกระทั่งมาถูกจับกุม ส่วนนายกล้าไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ซึ่งได้หนีไปก่อนแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว พร้อมยึดรถจยย.ของกลางโดยดำเนินคดี กับนายติดแสน และ ส่วนนายกล้า ที่ยังหลบหนีอยู่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าตัวคาดว่ายังหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนา จ.ระยองเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโทษในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในมาตรา 142 ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใดๆอันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
Discussion about this post