เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 พ.ต.อ.วัฒนา เพ็งแก้ว ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ นายพิพัฒน์ ว่องธีรกิจโกศล ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทุ่งสง นำทีมนักเรียนนายสิบตำรวจและผู้อบรมวิชาชีพ เข้าร่วมชมการสาธิต หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดแบบไร้สาย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบวัตถุระเบิดสำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ EOD (Explosive Ordnance Disposal) เพื่อลดอัตราความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ โดยหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวสามารถควบคุมจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องลากสาย ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้พัฒนาโดย ด.ต. มนูญ เพ็ชรรัตน์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 8 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งได้พัฒนาหุ่นยนต์ตรวจสอบวัตถุมาแล้ว 3 รุ่น โดยรุ่นที่ 3 ที่ผลิตในปีพ.ศ.2559 มีการทดลองนำไปใช้งานอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์
ในช่วงวิกฤตโควิด 19 จึงใช้เวลาว่างคิดค้นในการพัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาใหม่ และได้ปรึกษากับพ.ต.อ.วัฒนา เพ็งแก้ว เพื่อปรึกษาและขอคำแนะนำก่อนจะประดิษฐ์หุ่นยนต์เก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดเป็นรุ่นที่ 4 เพื่อให้มีความล้ำหน้ามากกว่าเดิม โดยนำเอากล้องหลังรถยนต์มาใช้เป็นอุปกรณ์เสริมรอบตัวหุ่นยนต์ มีการนำเลเซอร์พอยท์มาใช้ร่วมด้วย ทำให้การควบคุมมีความแม่นยำมากขึ้น และสามารถส่งสัญญาณภาพทางไกลถึงผู้บังคับบัญชาได้เสมือนว่านั่งอยู่บนหุ่นยนต์ จึงง่ายต่อการสั่งการและให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ หากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจลำบาก โดยหุ่นยนต์รุ่นที่ 4 ถูกพัฒนาให้สามารถวิ่งบนพื้นหญ้าและในคูลึกได้ สามารถเปลี่ยนใส่แขนกลเพื่อคีบหรือเปิดกล่องเพื่อส่องดูวัตถุ เหมาะแก่การใช้งานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การสาธิตหุ่นยนต์ตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อให้นักเรียนนายสิบตำรวจได้ใช้เป็นแนวทางและสามารถนำไปต่อยอดได้ ซึ่งหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวยังเป็นแค่ตัวทดลองเพื่อให้เห็นรูปแบบการทำงานเท่านั้น ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% โดยทางพ.ต.อ.วัฒนา เพ็งแก้ว มีความคิดเห็นว่า อยากให้หน่วย EOD มีเครื่องมือที่ล้ำหน้าและพัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอัตราการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่
Discussion about this post