จากเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของคืนวันที่ 31 กรกฎา คม 2565 แผ่นปูนขอบทางบนสะพานกลับรถหน้าโรงพยาบาลวิภาราม กม.ที่ 34 ถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ที่ 2 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุง พังถล่มลงมาทับรถ ยนต์ที่สัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน ขาเข้ากรุงเทพฯ มีรถยนต์ได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นางสาวสุวรรณี รักท้วม อายุ 40 ปี ที่อยู่ 62/46 ม.4 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถยนต์เก๋งเชฟโรเลต สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน ชธ 6271 กรุงเทพมหา นคร เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ กับคนงานก่อสร้างที่หล่นลงมาบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ห้องฉุกเฉิน คือ นายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี ที่อยู่ 58 ม.3 ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบล ราชธานี อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส 2 คน คือ นางสาวลัคขณา จงศิริโรจน์กุล คนขับรถยนต์เก๋ง ถูกนำส่งตัวที่ รพ.มหา ชัย กลับบ้านได้แล้ว อีกคนคือ นายฉัตรชัย ศิริมาศ คนงานก่อสร้างสะพานบาดเจ็บฟกช้ำ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการปลอดภัย แต่หมอให้รอตรวจร่าง กายอีกรอบที่ รพ.สมุทรสาคร หากไม่มีอะไรจะให้กลับบ้าน ตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (1 ส.ค.65) ตลอดทั้งวัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าพบว่า บริเวณจุดที่เกิดเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงได้มีการนำเชือกแดงมากั้นเอาไว้เพื่อเป็นเขตอันตรายห้ามผู้ใดเข้าไปบริเวณใกล้เคียง และมีปิดช่องทางด่วนฝั่งขาเข้ากรุงเทพ โดยให้รถเบี่ยงออกคู่ขนานก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ส่งผลทำให้การจราจรบนถนนพระ ราม 2 หนาแน่นและติดขัดต่อเนื่องยาวกว่า 7 – 8 กิโลเมตร แต่พอเลยจุดที่เกิดเหตุมาไปแล้วประมาณ 1 กิโลเมตร หรือก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่ท่าจีน รถสามารถตัดเข้าช่องทางด่วนได้ตามปกติ สามารถเคลื่อนตัวได้คล่อง ส่วนฝั่งขาออกกรุงเทพฯ สามารถเปิดใช้การจราจรได้ทุกช่องทาง ทำ ให้เป็นไปอย่างคล่องตัว แม้จะมีติดขัดบ้างตรงช่วงก่อนถึงแยกบ้านแพ้ว เพราะมีรถสะสมจากการรอกลับรถใต้สะพานเพื่อไปยังฝั่งตรงข้าม
ต่อมาในเวลาประมาณ 10.00 น. ทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราช การจังหวัดสมุทรสาคร เรียกประ ชุมหารือร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของการจราจรติดขัด ซึ่งในที่ประชุมนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ขอให้แขวางการทางสมุทรสาคร กรมทางหลวง เร่งวิเคราะห์สภาพสะพาน ว่ามีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ยังคงมีปลอดภัยหรือไม่ และสามารถเปิดช่องจราจรให้รถสัญจรได้ตามปกติหรือไม่ หากพบชำรุดเสียหายมากมีความเสี่ยงสูงต่อการเปิดใช้งานทำให้ไม่สามารถเปิดใช้ช่องทางด่วนได้ ก็จะต้องมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด ซึ่งเบื้องต้นทางแขวงการทางได้วางแผนไว้ว่า จะมีการเปิดช่องทางพิเศษ รีเวิร์ส เลนส์ เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดยาว และจะทำป้ายประชา สัมพันธ์เส้นทางการจราจรให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ ตั้งแต่แยกวังมะนาวมาจนถึงปากทางบ้านแพ้ว เป็นต้น
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ. สมุทรสาคร กล่าวภายหลังประชุมว่า ทางจังหวัดได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อที่จะวิเคราะห์สถาน การณ์และหาแนวทางในการปฏิ บัติ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะพยายามหาทางเปิดช่องทางเดินรถหรือเพิ่มช่องทางการเดินรถให้ได้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหารถติดจากการเดินทางเข้า กทม. แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอให้วิศวกรฯ ของกรมทางหลวง ไปหาข้อมูลเพื่อนำมาเสนอต่อที่ประชุมภายในวันนี้ นอกจากนี้ในส่วนของการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้เสียหาย หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็ได้สั่งกำชับให้ทางกรมทางหลวง โดยแขวงการทางสมุทรสาคร รับหน้า ที่ไปดำเนินการหาข้อสรุปเป็นแนว ทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือผู้เสียหายได้ดำเนินการตาม ส่วนเรื่องของการปรับปรุงสะพานต่างประดับตรงนี้ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงของกรมทาง หลวง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับผู้รับเหมาก่อสร้างตามที่หลายคนเข้าใจแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ขณะที่ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า ในส่วนของคดีนั้น ตอนนี้ได้มีการเรียกพยานที่เป็นทั้งคนงานและผู้คุมงานมาสอบปากคำแล้วประมาณ 10 ปาก ซึ่งก็อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด อีกทั้งยังได้ติดต่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่อยู่ในเหตุ การณ์มาให้ปากคำต่อ พนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองสมุทรสา คร ในวันนี้ด้วย เพื่อนำไปสู่การเยียวยาผู้เสียหายและการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ส่วนบรรยากาศบริเวณจุดเกิดเหตุวันนี้ ก็ได้มีญาติของนายชาญ ชาวทอง คนงานก่อสร้างที่เสียชีวิตนั้น ได้นำข้าวของมาเซ่นไหว้และเชิญดวงวิญญาณกลับไปที่ อำเภอโขง เจียม จังหวัดอุบลราชธานีบ้านเกิดของนายชาญฯ โดยมีคุณแม่มาทำพิธีด้วยตัวเองพร้อมญาติอีก 2 คน ซึ่งคุณแม่พูดเพียงสั้นๆ อย่างเดียวคือ ยังไม่มีอะไรจะให้คำตอบเนื่องด้วยว่ายังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องฟ้องร้องตอบสั้นๆว่า ยังไม่ได้คิดคงต้องทำพิธีฌาปนกิจศพลูกชายให้เรียบร้อยก่อน นอกจากนี้ทางญาติของนางสาวสุวรรณี รักท้วม ผู้เสียชีวิตที่นั่งมาในรถยนต์เก๋ง ก็ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตท่ามกลางสายฝน กลับบ้านเกิดด้วยเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าในเวลาเดียวกัน นางสาวปรียานันท์ ลิขิตศานต์ ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกระทรวงแรงงาน ก็ได้นำคณะลงพื้นที่มาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมกับ เปิดเผยว่าตอนนี้ทางสำนักงานประกันสังคมได้ตรวจสอบสิทธิ์สำหรับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนทีมเฉพาะกิจที่ทางกระทรงแรงงานที่ทาง รมต.แต่งตั้งขึ้น ก็จะมาสอบสวนว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นและบังคับใช้กฎหมายต่อไป อันนี้จะมี พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนา มัยและสภาพแวดล้อมในการทำ งาน พ.ศ.2554 ในการควบคุมดูแลว่าหน่วยงานมีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร ซึ่งจะมีรายละเอียดตาม พ.ร.บ.ความปลอด ภัย กับกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
และล่าสุดของวันนี้เมื่อเวลา 14.00 น. ทางด้านของวิศวกรรม สถานแห่งประเทศไทย ในพระ บรมราชูปถัมภ์ โดย รศ.ศิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพของสะพานกลับรถ พร้อมกับเปิดเผยว่า สะพานกลับรถแห่งนี้ เป็นการบูรณะซ่อมเสริมสะพานที่ดำเนินการใช้งานมากว่า 30 ปีแล้ว ก็ย่อมมีความเสื่อมโทรมและเกิดรอยร้าวไปตามสภาพ อีกทั้งจุดดังกล่าวยังเคย เกิดไฟไหม้รถบรรทุกน้ำมันด้วย ฉะนั้นความร้อนเนื่องจากไฟไหม้รถ อาจมีผลกระทบต่อพวกคอน กรีตและเหล็กเสริมได้ด้วย แต่จากการตรวจสอบในช่วงขณะนั้น พบว่ายังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ กระทั่งมาถึงกำนดระยะเวลาที่จะต้องทำการซ่อมแซมด้วยวิธีการรื้อผิวคอนกรีตออก แล้วซ่อม แซมเหล็กเสริมใหม่และเทคอน กรีตใหม่ตามกระบวนการและขั้นตอนทางวิศวกรรม แต่บังเอิญว่ามาทำตัวนี้พอเอาพื้นออกฝั่งโน้นก็ยังอยู่ดี ส่วนฝั่งที่เกิดเหตุนี้แรกๆ ก็ยังดีอยู่และกำลังเตรียมการเทปูน ก็เกิดปัญหานี้ขึ้น ซึ่งโดยภาพรวมรับรองว่ายังปลอดภัยอยู่ แต่ประ เด็นตรงนี้คาดว่าขาดเสถียรภาพนิดหน่อยเผอิญไม่คาดคิดว่ามันจะแผ่นปูนขอบทางจะพลิกเทลงมา ซึ่งถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็เทปูนคอนกรีตกลับเข้าไปพอคอนกรีตแข็งตัวก็จบแล้ว
รศ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการเปิดใช้ช่องจราจร (ช่องทาง ด่วน) ขาเข้ากรุงเทพฯ นี้ ตอนนี้ผู้ปฏิบัติงานกำลังเร่งที่จะเชื่อมฝั่งโน้น ซึ่งตนได้แนะนำให้กรมทางเขาได้เชื่อมเหล็กยึดโยงมากับตัวคานข้างในเพื่อให้เกิดความปลอด ภัย เมื่อเชื่อมยึดเสร็จแล้วก็จะประ ชาสัมพันธ์ว่าดำเนินการแล้ว จากนั้นก็จะเปิดเส้นทางให้รถก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ พร้อมกันนี้จะให้มีป้ายขอให้ผู้ใช้ยานพาหนะลดความเร็วลงเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน ส่วนปัญหานี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น ตนคงไม่สามารถยืนยันได้ เพราะอุบัติเหตุไม่มีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่เชื่อได้ว่าทั้งผู้ควบคุมงานและผู้ปฏิบัติงานไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างแน่นอน ขณะที่จากการตรวจสอบโครงสร้างทั้งหมดแล้ว ยืนยันได้ว่า โครงสร้างทั้งสะพานยังมั่นคงแข็งแรงดี ไม่จำเป็นต้องรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่ สามารถใช้การปรับปรุงซ่อมแซมตามแผนเดิมได้.
Discussion about this post