พลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 3 เปิดเผยว่าได้ร่วมหารือกับทาง จังหวัดระนองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับความมั่นคงทางทะเล เพื่อหาแนว ทางและมาตรการในการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาการทำ ประมง ในพื้นที่จังหวัดระนอง ให้มีความชัด เจนเพื่อให้การทำประมงมีความถูกต้องและ เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด รวมทั้งจะได้มีการหารือเพิ่มเติม ในเรื่องของการท่องเที่ยว ทางทะเลและการกระทำผิดกฎหมายทางทะเลอื่น ๆ ในพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ กิจการท่องเที่ยว และกิจการอื่น ๆ ทางทะเล ในพื้นที่จังหวัด ระนอง โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางทะเล จำเป็นต้องอาศัย ร่วมมือกับภาคประชาชนและภาคเอกชน ในการร่วมกันแก้ปัญหาและขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรม รักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลร่วมกันให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
ส่วนปัญหาต่าง ๆ ที่รับทราบจากภาคเอกชนและภาครัฐในจังหวัดระนอง สรุปคร่าวๆได้คือ สถาน การณ์ของผู้ประการเรือประมงในจังหวัดระนองทั้งเรือเล็กเรือขนาดกลางเรือใหญ่ กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง จนไม่สามารถนำเรือประมงจำนวนกว่า 100 ลำออกทำการประมงได้ โดยเฉพาะเรือประมงขนาดกลางและเรือประมงขนาดใหญ่ ที่มีปัญหาหนักทั้งเรื่องค่านำมัน ค่าใช้จ่าย หรือการทำตามกฏหมายที่รัฐบาลกำหนดบังคับใช้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกฎหมายที่รุนแรง พร้อมกันนี้ผู้บังคับใช้กฎหมายในแต่ละหน่วยงานก็บังคับใช้กฎหมายไม่เหมือกัน บางหน่วยบอกว่าเรือประมงทำผิดต้องดำเนินคดี บางหน่วยบอกว่าไม่ผิด บางหน่วยไม่แน่ใจ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการและผู้มีอาชีพทำการประมง เรือจอดนิ่ง แรงงานไทยและแรง งานต่างด้าวก็ตกงานเกิดการไหลของแรงงานเนื่องจากทุกคนต้อง หารายได้เพื่อเลี้ยงครอบครัว
ที่ผ่านมาการทำงานของรัฐมุ่งเน้นการปราบการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งทางชาวประมงก็พร้อมร่วมมือทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบ ครัวได้ แต่ในช่วงเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมามีข้อกฏหมายและข้อบังคับที่รุนแรงที่บังคับใช้กับชาวประมงออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็น การเอาใจคณะกรรมมาธิการยุโรปต่อต้านการประมงผิดกฏหมาย(IUU)
ในฐานชาวประมงซึ่งได้มีการพูดคุยกับพี่น้องชาวประมงและหน่วยงานภาคประมงถึงปัญหาที่เกิดอย่างต่อเนื่องจนต้องมีการจอดเรือประมงจำนวนกว่า 100 ลำ อยากจะฝากไปถึงรัฐบาลให้ช่วยมีความเห็นใจความจริงใจในความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงในทุกภาคส่วนไม่เฉพาะจังหวัดระนองแต่ยังรวมไปถึงพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศ โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ที่ราคานำมันซึ่งเป้นส่วนสำคัญในการออกทำการประมงมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง วึ่งก่อนหน้าที่ก็ยังพอสู้ไหวเพราะยังสามารถไปเติมน้ำมันเขียวที่แท๊งค์น้ำมันกลางทะเลได้ซึ่งมีราคาถูกกว่าบนฝั่งถึงลิตรละ7-8บาท แต่เมื่อมีการยกเลิกแท๊งค์น้ำมันกลางทะเลจึงต้องมาเติมบนบกซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมากจึงเกิดผลกระทบ
สิ่งที่อยากข้อร้องรัฐให้ช่วยเหลือหลัก ๆในเบื้องต้นคือ ช่วยให้มีแท๊งค์น้ำมันกลางทะเลเช่นเดิม แก้ไขข้อกฏหมายที่รุนแรงกับชาวประมงพร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่ตรวจสอบจับกุมให้ทำงานไปในทิศทางเดี่ยวกัน ไม่ใช่ว่าหน่วยนี้ว่าผิดหน่วยนี้ว่าไม่ผิด จากเครื่องการทำงานที่แต่ละหน่วยใช้ชี้วัดในการจับกุมการกระทำผิดไม่เหมือน ซึ่งการร้องขอรัฐบาลเพื่อช่วยแก้ไขยังมีข้อปัญหาอื่นๆอีกจำนวนหลายเรื่องที่ชาวประมงอยากให้ทางรัฐบาลได้รับฟังเพื่อหาทางช่วย แต่หากสุดท้ายรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้สิ่งสุดท้ายที่ชาวประมงขอคือช่วยมาซื้อเรือประมงจำนวนกว่า 100 ลำที่จอดหยุดทำการประมงและอีกหลายร้อยลำที่กำลังจอด เพื่อชาวประมงพอได้มีทุนไปทำอาชีพอื่นๆเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้.
Discussion about this post