ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เคยโพสต์ช่วยเหลือครอบครัว น้องวีนจนทิพย์ ล่าสุดออกมาแฉต่อโดยเผยว่าแม่ของน้องวีนได้ปฏิเสธไม่ขอแจ้งยอดเงินที่ได้รับบริจาค ลั่นเราจบแล้วได้เงินมาแล้ว ไม่พูดอะไรแล้ว
จากกรณี น้องวีน นักเรียนมัธยม 6 วัย 18 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง สอบติดเป็นนักศึกษาคณะแพทย ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เปิดรับบริจาคเงินพร้อมเผยว่าครอบครัวของตนนั้นมีฐานะยาก จน และมีประชาชนบริจาคให้ความช่วยเหลือก่อนจะพบว่าใช้ iphone 12 และ Apple Watch ราคารวมกันหลายหมื่นบาทจนทำให้เกิดเป็นประเด็น “น้องวีนจนทิพย์”
และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.มีผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งก่อนหน้านี้เคยโพสต์ช่วยเหลือครอบ ครัว น้องวีนจนทิพย์ และได้ออกมาระบายความในใจ เผยว่าตนเคยคุยกับแม่เด็กว่าให้ออกมาแจ้งยอด แตกลับถูกปฏิเสธ มิหนำซ้ำพอขอให้แก้ข่าวก็โดนแม่น้องวีนตอกกลับมาว่า คุณมาทำข่าวเอง คุณก็แก้เองสิ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า เราอึดอัดเราอยากระบายมาก ฟังเราสักนิด เราผิดไปแล้วอย่าด่าเยอะนะเราสำนึกผิดไม่ทัน ตั้งแต่ทำเคสแบบนี้มาไม่เคยเสียใจและเสียความรู้สึกแบบนี้มาก่อน สื่อทุกช่องทุกคนโดนต้มซะจนเปื่อยว่าครอบครัวนี้จนตอนนั้นใครว่าน้องว่าแม่เราปกป้องเต็มที่จนไม่ลืมหูลืมตาเพราะอยากให้น้องได้มีเงินเรียน จนมันมีชาวเน็ตขุดคุ้ยประวัติแม่และน้องเราก็ตามด่าชาวเน็ตว่าไม่ช่วยแล้วยังเสือกแถมอิจฉาน้องที่เขาได้เงิน
ล่าสุดวันนี้ 19 มกราคม 66 ผู้สื่อข่าวยังลงพื้นที่ติดตามเรื่องดังกล่าว ในพื้นที่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ตรงบริเวณจุดรับชื้อน้ำยางพารา เพื่อที่จะพบกับแม่น้องวีน นางอำพา หรือเจี๊ยบ อายุ 45 ปี แต่ไม่เจอ เนื่องจากวันนี้ นางอำพาไม่มาเปิดจุดรับชื้อนำยางพา ราในพื้นที่ ที่อยู่ห่างจากบ้าน 15 กิโลเมตร และเวียนไปตรงถนนหน้าบ้านพบว่าบ้านยังคงปิดประตูเงียบไม่ทราบว่าไปไหน

ขณะเดี่ยวกันด้านนายฉลอง เทิดวีระพงษ์ สส.พัทลุง เขต 2 ซึ่งเป็นผู้ที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวน้องวีน ในช่วงแรกๆก่อนที่จะมีข่าวขอความช่วยเหลือ โดย ส.ส. ระบุว่า ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากญาติของน้องวีนว่าลูกหลานชาวสวนโหนดสอบติดแพทย์ แต่มีฐานะยากจนแม่มีอาชีพรับชื้อเศษยางพารา มีรายได้ไม่ถึง 400 บาท ต่อวัน ทางตนจึงได้มอบหมายให้ทีมงานเข้าไปช่วยเหลือตามหน้าที่ ของสส. ที่คอยดูแลประชาชน โดยระดมทุนกันได้ 4000 บาท เพื่อชื้อเครื่องอุปโภคช่วยเหลือเยียวยาตามสภาพ และเงินสดเหลืออยูอีก 3000 บาท ทางทีมงานจึงได้มอบให้กับครอบครัว เพื่อเป็นทุนเรียนต่อ โดยไม่คิดอะไร แค่อยากให้เด็กได้เรียนต่อ เพราะคิดว่าน้อยคนนักที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนชนบท จะสามารถสอบติดแพทย์ได้ จึงช่วยกันตามอัธภาพ และหลังจากนั้นอีกครึ่งเดือนมีผู้สื่อข่าวโทรมาสอบถามว่าเด็กมีฐานยากจนจริงมั๊ย เพื่อที่จะเข้าไปทำข่าวช่วยเหลือหลังจากญาติติดต่อร้องขอมาให้ช่วย ตนก็บอกว่าถามว่าจนมั๊ยบอกว่าฐานะอยู่ในระดับล่างๆหากมองถึงความจน จนกระทั่งมีการออกข่าวเปิดรับบริจาค โดยทางญาติผู้ใหญ่เป็นคนติดต่อผู้สื่อข่าวมาให้ทำข่าวช่วยเหลือ จนมีกระแสราม่าจนทิพย์ดังกล่าว
ขณะเดียวกันในวันนี้ จากเหล่งข่าวญาติผู้ใหญ่ระบุว่า หลังจากที่มีกระแสราม่าเรื่องยอดเงินบริจาค และเรื่องจนทิพย์ ทำให้มหาวิทยา ลัย ที่น้อง ติดเอ็นแพทย์ ติดต่อมา โดยผ่านทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง เพื่อขอพบน้องวีนและแม่ ที่โรงพยาบาล ถึงทางออกในการเรียนว่าเป็นอย่างไร โดยจะมีการพูดคุยกันในช่วงบ่ายของวันนี้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังนายทีป (สงวนนามสกุล) ผู้เป็นลุงของน้องวีน เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกระแสดราม่าว่าให้ออกมาชี้แจง แต่มีการตั้งโอนสายโทรศัพท์ ไปยังผู้หญิง อีกคนหนึงโดยไม่สามารถตอบคำถามไดๆได้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่นำเสนอข่าวการเปิดรับบริจาคในช่วงแรก ได้เตรียมเอกสารหลักฐาน ที่ผู้ร้อง ขอความช่วยเหลือเปิดรับบริจาคเพื่อแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และที่นำเสนอข่าวก็เป็นไปตามที่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ.
Discussion about this post