‘บิ็กโจ๊ก’ ลั่นลุยจับแก็งค้าไม้พะยูงข้ามชาติ รับไม้ต่อกรมอุทยานฯเตรียมยึดทรัพย์ตัดกำลังมอดไม้

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 มิถุนา ยน ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นายอรรถพล เจริญขันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันแถลงข่าวปราบปรามขบวนการตัดไม้พะยูงข้ามชาติ และขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยมีการส่งมอบข้อมูลในการสืบสวนสอบสวน เส้นทางการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องพฤติกรรมและเส้นทาง การเงิน เพื่อเชื่อมโยงไปยังหัวหน้าขบวนระดับสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายอรรถพล เจริญขันษา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาต้องขอบพระคุณทาง สตช. ที่ให้ความร่วมมือในการเข้ามาช่วยเหลือจับกุมผู้กระ ทำความผิด ในคดีความผิดเกี่ยวกับสัตว์และป่าไม้ โดยเฉพาะเรื่องของการค้าไม้พะยูง ซึ่งเป็นอาช ญากรรมข้ามชาติ มีการนำเงินสดมาลงทุนที่สามารถพร้อมจะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ มีออร์เดอค่อนข้างสูงมาก ซึ่งขบวนการนี้พร้อมที่จะสูญเสียเงินก้อนนั้นด้วย เพราะหากสามารถข้ามไปยังประเทศต้นทางแล้วจะมีมูลค่าสูงถึง 5 – 10 เท่า ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้นไม้ของประเทศถูกตัดไปเป็นจำนวนมาก

“ขบวนการนี้จะเอาเงินมาลงทุนในหมู่บ้านต่างๆ จะมีออร์เดอเข้ามาจำนวนมาก เงินเป็นตัวล่อ ชาวบ้านก็อยากจะได้เงิน ก็ต้องกระทำความผิด แม้แต่การชี้เป้าว่ามีไม้พะยูงที่ไหน ก็ได้เงินเป็นจำนวนที่ล่อตาล่อใจ รวมทั้งมีการเข้ามาสืบค้นข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่เอง ในการลาดตระเวนเราจะรู้ว่าไม้มีค่าเหล่านี้อยู่จุดไหน พวกนี้ก็จะเจาะเข้ามาล้วงเอาข้อมูล มีการเอาพิกัดตัวนี้ไปใช้ไปขายกัน มีข้อมูลว่าหากชัดเป้าไม้อยู่ที่ไหนก็ได้เงินไปแล้ว 5,000 บาท เรามีแนวคิดที่จะปราบปรามขบวนการนี้ให้สิ้นซาก จึงขอความร่วมมือไปยัง สตช. ปปง. และกระทรวงต่างประเทศ เราต้องการที่จะหยุดขบวนการนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ 1 ประเทศที่ 2 ประเทศที่ 3 หรือประเทศปลายทาง”

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยต่อไปอีกว่า จะมีแนวทางอย่างไรในการสกัดในการข้ามประเทศ สกัดกั้นในเรื่องการเงิน สืบค้นข้อมูลเชื่อมโยงการเงินทั้งหมด ที่ผ่านมามีการจับกุมขบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทย ชาวลาว รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯเองด้วย ก็มีคนหลงผิด ซึ่งก็ต้องรับโทษไป เราเองก็พยา ยามปัดกวาดหน่วยงานของเราด้วย ทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดการเกรงกลัวไม่ให้มีการกระทำผิด หยุดยั้งขบวนการนี้ แฟ้มข้อมูลที่มอบให้ สตช. เป็นข้อมูลของขบวนการข้ามชาติ ทั้งเรื่องของการค้าไม้พะยูง ไม้กฤษณา และการค้าสัตว์ป่า เป็นข้อมูลของขบวนการชาวจีน ชาวลาว ชาวเวียดนาม หรือบางคนก็ถือ 2 สัญชาติ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนขยายผลจับกุมขบวนการให้สิ้นซาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปล้นไม้พะยูงที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ อ.หนอง พอก จ.ร้อยเอ็ด จากการสืบสวนขยายผลพบว่าเป็นขบวนการของชาวจีน ที่เอาเงินเข้ามาผ่านนายหน้าในฝั่งไทย ร่วมมือกับหัวหน้าหน่วยงานของกรมอุทยานฯ มีการขออนุมัติหมายจับต่อศาลในฝั่งไทยทั้งหมด 11 คน ตั้งแต่เรื่องความผิดของการบุกรุก ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ มีการข่มขู่ มีการใช้อาวุธ ขบวนการชาวจีนนี้ เราทราบตัวแล้ว ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอีก 4 คน มีทั้งคนจีนคนลาว ซึ่งทราบว่าทั้งหมดหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

“หลังจากนี้เราจะเร่งติดตามจับกุมขบวนการนี้ให้ได้ทั้งหมด เราจะออกเป็นหมายแดง ประกาศสืบจับในอินเตอร์โพล ส่วนคนลาวที่มีชื่ออยู่นั้น เราจะประสานทาง ผบ.ตร. ลาว เร่งจับกุมมาให้หมด เราจะต้องจับกุมผู้กระทำผิดนอกประ เทศด้วย สักพักก็น้อยลงหรือเบาลงไป หมดไปคงไม่หมดแน่ เนื่อง จากไม้พะยูงเป็นที่ต้องการมากในประเทศจีน คนจีนมีรสนิยมของไม้พะยูงสูง เอาไปสร้างบ้าน ตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่การตกแต่งราชวัง มีมูลค่าตลาดเป็นพันพันล้าน ซึ่งเป็นมูลเหตุให้เกิดขบวนการนี้ ถ้าคนไทยเราไม่หวงแหนทรัพยากรไม้มีค่าไว้ก็จะหมดไป เราจะดำเนินการในคดีฟอกเงินคู่ขนานกันไป ใช้มาตรการในการยึดทรัพย์ เพื่อตัดกำลังไม่ให้ขบวน การนี้กลับมากระทำผิดอีก”.