
เมื่อเวลา 14.50 น.วันที่ 2 มิถุนายน ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ผอ.ศปน.ตร.,พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./รองผอ.ศปน.ตร.,พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รองผอ.ศปน.ตร.,พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ,พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และพล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก. ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงในการจับกุม “แก๊งบังโก้” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ดอกเบี้ยสูงถึง ร้อยละ 340 ต่อปี สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่ประชาชน ในหลายพื้นที่ อาทิเช่น จ. อุดรธานี จ.กาญ จนบุรี จ.ขอนแก่น จ. สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา ที่อาศัยโอกาสคนที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนต่างๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้มีการขออนุมัติหมายจับ โดยสนธิกำลังตำรวจภูธรภาค 3,4,7 และ 8 เข้าตรวจค้นจับกุม จำนวน 12 จุด ได้ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 24 ราย ตรวจของกลางได้จำนวน 14 รายการ ที่สำคัญพบนามบัตรปล่อยเงินกู้จำนวน 880,000 ใบ ดำเนินคดีในฐานความผิด “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” ส่วนนายเกียรติศักดิ์ หรือบังโก้ ชาว จ.บึง กาฬ ที่เป็นหัวแก๊งนายทุน อยู่ระหว่างติดต่อเข้ามอบตัว แต่ตำรวจจะดำเนินการติดตามจับกุม อย่างเด็ดขาด

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับแก๊งบังโก้ ก็เหมือนกับนายแด้ ในคดีแอม โดยจะเป็นคนมีฐานะ นำเงินมาปล่อยกู้ ในภาคอีสาน เนื่องจากปล่อยง่าย ใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก ในการปล่อยเงินกู้ มีเงินหมุนเวียน จำนวน 600 กว่าล้านบาท ทำการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย เป็นระยะเวลา 2 ปี ดอกเบี้ยสูงถึง ร้อยละ 340 ต่อปี ทำให้มีเงินสะพัดเป็นจำนวนมาก แต่ก็เข้าใจชาวบ้าน ในภาคอีสาน ที่ต้องยอมกู้เงินนอกระบบ พวกนี้ เพราะเข้าไม่ถึงแหล่งเงินที่ถูกกฎหมายไม่ได้ ที่สำคัญมีการใช้กำลังในการทวงหนี้ ถือว่าเป็นการทวงนี้โหด จากความเดือดร้อนของประชาชน จึงดำเนินการใช้บูรณาการร่วมกัน ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้ผู้ต้องหา 24 ราย เหลือผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งต่อไป จะใช้มาตรการ ยึดทรัพย์ต่อ
“ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน ให้ไปใช้บริการแหล่งเงินกู้ภาครัฐ การที่เราไปใช้แหล่งเงินกู้ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะปล่อยเงินง่าย เซ็นต์สัญญาง่าย แต่ผลที่ตามมา จะเป็นการทวงหนี้โหด บางครั้งอาจจะดอกเบี้ยโหดถึง 3 หมื่นบาทต่อวัน หากจ่ายไม่ไหว จะถูกซ้อมหรือถูกคุกคาม ตามมาในหลายรูปแบบ ถึงแม้ว่าสามารถจับกุม “แก๊งบังโก้” ไปแล้ว แต่ก็ยังมีแก๊งประเภทนี้อยู่หลายขบวน การ ยังมีอยู่จำนวนมาก ก็ฝากถึงพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการสำนวนให้รัดกุม”.
Discussion about this post